ก่อนที่จะเริ่มต้นสร้างแบรนด์ครีม ทำแบรนด์เครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม สมัยนี้ต้องศึกษาให้ดีก่อน เพราะปัจจุบันการจะขายอะไรซักอย่าง จุดขายเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เนื่องจากจุดขายเป็นสิ่งที่ทำให้คนซื้อหรือผู้บริโภครู้ว่าทำไมแบรนด์ของคุณถึงต่างจากท้องตลาด เช่นทำไมคนต้องมาซื้อเซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใสแบรนด์ของคุณแทนที่จะเป็นแบรนด์ X,Y หรือ Z เพราะคุณมีจุดขายที่คู่แข่งไม่มีคือ ใช้สาร B เป็นแบรนด์เดียวของประเทศ หรือจุดขายอื่นๆที่คนซื้อจำได้ว่าแบรนด์คุณเท่านั้นถึงมีจุดขายนี้
เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ PS ได้ไปสัมนาในหัวข้อ “การตลาดยุคดิจิทัลสำหรับ SMEs ที่ได้ผลจริง” ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจัดขึ้น เพื่อช่วยให้ SMEs ไทยก้าวไกลไปอีกระดับนึง มีหัวข้อนึงซึ่งมันอะเมซิ่งมากๆสำหรับคนที่เริ่มต้นธุรกิจ หรือคิดจะสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ แล้วยังหาไม่ได้ว่าสินค้านั้นมีจุดขายที่สำคัญหรือต่างจากท้องตลาดอย่างไร โดยวิธีที่คุณจะใช้หาจุดขายได้นั้นสามารถทำได้ง่ายๆด้วยวงกลม 3 วงดังภาพ
เรามาดูขั้นตอนการหาจุดขายของสินค้าหรือบริการจากภาพนี้กันนะคะ
1.วงกลม What the consumer wants = การหาว่าอะไรเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ
คือให้ลองสมมุติตัวเองเป็นลูกค้า หรือคนใช้สินค้าที่คุณกำลังจะขาย เช่นคลีนซิงค์ล้างเครื่องสำอาง เราคาดหวังว่าสินค้านี้ต้องมีคุณสมบัติหรือมีอะไรที่เราอยากจะได้บ้าง อาจจะต้องใช้การสำรวจตลาดด้วย ไม่ใช่ว่ามองจากมุมตัวเองคนเดียว เช่น คลีนซิงค์แบบน้ำ อยากให้ล้างออกได้หมดจด ใช้ได้ทั้งหน้าโดยไม่ต้องใช้สำลีหลายแผ่น ใช้แล้วไม่แสบตา ราคาไม่แพงมากไม่เกิน 500 แพกเกจใช้ง่าย บลาๆ วงกลมนี้ถ้าเราสำรวจได้มากพอและตรงกลุ่มเป้าหมาย ก็จะถือว่าเราได้เปรียบมากๆ เพราะมีข้อมูลเยอะให้เล่น
2.วงกลม What your brand does well = การหาว่าสินค้าของตนมีจุดเด่นหรือข้อดีที่ตรงไหน
คือวิเคราะห์ให้หมดว่าจุดเด่นของสินค้าตนเองอย่างสมมติ คลีนซิงค์ของตนนั้นมีข้อดีอะไรบ้าง คุณสมบัติ แพกเกจ แหล่งขาย โปรโมชั่น หรืออื่นๆ พยายามเขียนมาให้หมด มองหลายๆมุม หลายๆคน ระดมความคิด
3.วงกลม What your Competitor does well = การหาว่าสินค้าของคู่แข่งมีจุดเด่นหรือข้อดีที่ตรงไหน
คือวิเคราะห์ว่าสินค้าเดียวกันของแบรนด์คู่แข่ง มีจุดเด่นอะไร เช่นคลีนซิงค์แบบน้ำแบรนด์ไหนในท้องตลาดที่ได้รับความนิยมหรือยอดขายสูง เราก็หยิบเอาแบรนด์นั้นมาทำการจารไนดูว่าแบรนด์นี้มีดียังไง
4.บริเวณของเครื่องหมายถูก = เป็นสิ่งที่ข้อดีของเราซึ่งคู่แข่งไม่มี ตรงกับความต้องการของลูกค้า
คือเมื่อดูแล้วทั้ง 3วง ว่าลูกค้าต้องการอะไร แบรนด์ตัวเองมีดียังไง และคู่แข่งมีดียังไงแล้ว เราก็มามองว่าอะไรที่ลูกค้าต้องการแล้วเรามีแต่คู่แข่งไม่มี เช่นลูกค้าต้องการคลีนซิงค์ที่ใช้สำลีน้อย เรามีจุดเด่นที่ใช้สำลีแผ่นเดียวก็ล้างได้ทั่วหน้า ซึ่งคู่แข่งไม่สามารถทำจุดนี้ได้ ดังนั้นนี่คือจุดขายของเรา ที่ต้องพยายามโฆษณาหรือโปรโมทให้หนักเพื่อให้คนจำได้ว่าแบรนด์นี้มีจุดขายตรงนี้ จุดนี้ถ้าเรามองไม่ออก หรือมองแล้วคิดว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากคู่แข่งเลยอ่ะ บอกเลยค่ะว่าแย่แน่ๆถ้าคิดจะออกสินค้ามาสู้ในตลาด อยากบอกว่าจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ต้องกาดอกจันทร์ 3 ดอกเลยล่ะค่ะ
เป็นบริเวณที่เราไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะคู่แข่งเค้าจะโฟกัสที่ตรงจุดนั้นเป็นพิเศษ มันอาจจะกลายเป็นจุดขายของคู่แข่งไปแล้ว เช่นคลีนซิ่งสูตรน้ำแบรนด์นี้ไม่ใส่น้ำหอม คนแพ้ง่ายใช้ได้ ซึ่งแบรนด์นี้อาจจะเล่นกับตลาดตรงนี้มานาน จนคนจำว่าถ้าผิวแพ้ง่ายต้องแบรนด์นี้เท่านั้น คำถามคือถ้าคุณอยากจะลงมาตรงนี้ คุณจะแกร่งสู้เค้าได้รึเปล่า
คือคุณสมบัติหรือข้อดีที่ทั้งสินค้าของเราและคู่แข่งที่เหมือนกันแต่ผู้บริโภคไม่ได้สนใจ เช่นคลีนซิงค์สูตรน้ำคุณภาพดี มีสารสำคัญมหัศจรรย์พันล้าน บลาๆ ซึ่งพูดก็พูดเหอะ แบรนด์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดชอบมาแข่งกันตรงจุดนี้ แบบว่าของชั้นคุณภาพดี ของชั้นดีที่สุด ของชั้นสารจากเทือกเขาหิมาลัย ของชั้นเทือกเขามาลายัน ว่าไป แข่งกันมากๆเข้า ความแตกต่างไม่มี สิ่งที่ทำได้คือหั่นกันที่ราคา ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์นั่นเอง
จุดนี้เป็นจุดเสี่ยงซึ่งเราต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการจะแย่งช่วงชิงลูกค้ามาเป็นของเราให้ได้ เช่น ลูกค้าต้องการคลีนซิ่งที่ใช้ได้ทั่วหน้า ไม่ต้องแยกว่าตาปากต้องใช้อีกสูตร ซึ่งแบรนด์เราก็เสนอจุดนี้ แบรนด์คู่แข่งก็เสนอจุดนี้เหมือนกัน ถ้าแบรนด์คุณอยากได้ลูกค้าจุดนี้อาจต้องมีสิ่งที่ดีกว่าเช่น พรีเซนต์เตอร์ที่ลูกค้าชื่นชอบ โปรโมชั่นดึงดูด หรืออื่นๆในการแข่งขัน
เมื่อเราวิเคราะห์ทั้งหมดแล้ว สิ่งที่เราจะได้คือจุดขายหรือ positioning ของแบรนด์ตนเองว่าควรหยิบจุดไหนมาเล่นให้โดดเด่น หรืออยากจะลองไปเหยียบในจุดขายของคู่แข่ง หรืออยากสู้กับคู่แข่งดูบ้างก็แล้วแต่ มันก็จะเป็นสิ่งวิเคราะห์ที่อยู่ใน 3 วงกลมนี้แหล่ะ ทำให้เรามองภาพรวมของสินค้าหรือบริการที่ตนเองกำลังทำอยู่ออก อยากให้เจ้าของธุรกิจหรือผู้อ่านลองนำไปใช้ดูนะคะ PS ว่ามันมีประโยชน์มากๆเลยล่ะค่ะ
ปรึกษาข้อมูลด้านการผลิตครีม รับผลิตครีม รับผลิตเครื่องสำอาง และรับผลิตอาหารเสริมได้ที่ พรีมา แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพราะเราเป็นโรงงานผลิตครีม โรงงานผลิตอาหารเสริม และโรงงานผลิตเครื่องสำอาง รวมถึงการบริการด้านการทำแบรนด์ครีม ทำแบรนด์อาหารเสริม และทำแบรนด์เครื่องสำอาง ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างแบรนด์ครีม และสร้างแบรนด์อาหารเสริม สร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่ให้บริการแบบครบวงจร ให้บริการโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญการพร้อมให้คำปรึกษาในทุกๆ ความต้องการที่คุณคาดหวังภายใต้แนวความคิดของคุณ
Prema Care, One Stop Service: Beauty and Health Manufacturer
website : https://www.premacare.co.th
facebook : https://www.facebook.com/premacare
line@ : @premacare
instagram : @premacare
youtube : https://www.youtube.com/premacare
phone : 02-8863957, 02-8863958, 02-8863959
Mobie : 0808-108-109
อัปเดต 10 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ครีม ทำแบรนด์ครีม ผลิตครีมแบรนด์ตัวเอง เครื่องสำอาง สกินแคร์ของตัวเอง โดยพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตได้มาตรฐาน
อยากกินคอลลาเจนผงชงดื่มให้ได้ผลดีที่สุด ต้องกินยังไง? พรีมา แคร์ มีคำตอบ! อธิบายแบบเข้าใจง่าย ครบทุกขั้นตอน กับ 8 วิธีกินคอลลาเจนผงชงดื่มให้ได้ผลสูงสุด
สร้างทำแบรนด์ครีม เวชสำอาง เครื่องสำอาง อาหารเสริม การตั้งชื่อแบรนด์สินค้าเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ รวบรวมเทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ให้โดนใจ จดจำง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
อยากลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย? รู้ไว้ก่อนใช้ยาลดความอ้วน อันตรายกว่าที่คิด เพราะมีสารอันตรายในยาลดความอ้วน มีโทษมากมาย ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
รับรองคุณภาพตามมาตรฐานโรงงาน
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
- 9th SME National Award - รางวัลระดับสุดยอด SME
- 10th SME National Award - รางวัลระดับสุดยอด SME
- รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น(ขนาดกลางและขนาดย่อม) ประเภทการบริหารจัดการ ปี พ.ศ. 2561
- รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น(ขนาดกลางและขนาดย่อม) ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2561
- สุดยอด SME ประจำจังหวัดนนทบุรี SME Provincial Champion 2018
- The Social Security Officer SSO Prize 2020