แนวคิดใหม่ กับ การชะลอวัย กลไกสำคัญที่ไม่มีใครพูดถึงมาก่อน
หากพูดถึงวิวัฒนาการของการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยด้วยสกินแคร์ (ไม่เกี่ยวกับเทคนิคหรือเครื่องมือทางการแพทย์นะคะ) เริ่มมาตั้งแต่การใช้ครีมบำรุงที่เน้นมอยเจอร์เยอะๆ เพื่อให้ผิวดูเรียบ ผิวดูอิ่ม จากนั้นก็ลงไปศึกษาในชั้นหนังแท้ที่เป็นต้นกำเนิดของคอลลาเจน อีลาสติน ซึ่งเค้าพบว่าพออายุเยอะ หรือผิวมีการโดนทำลาย โปรตีนในชั้นนี้ก็จะหายไป ทำให้ผิวยุบ กลายเป็นริ้วรอย จึงมีสารต่างๆมาทำงานประสานกันในจุดนี้ แล้วก็พัฒนาไปอีกด้วยการเทคนิคเรื่องของกล้ามเนื้อและสัญญาณสื่อประสาท ให้สารทำงานคล้ายๆกับโบท็อกซ์ที่ทางการแพทย์เค้าฉีดกัน ผิวจึงดูเรียบได้เร็วทันใจต้องการ
จนถึงบัดนี้นักวิทยาศาสตร์เค้าก้าวไปอีกขั้นด้วยการศึกษาเข้าไปถึงระดับของยีนและ DNA แล้วพยายามหาว่าปัจจัยอะไรในยีนที่ทำให้เราแก่ตัวลงทุกวัน จนค้นพบสิ่งที่เรียกว่า New way for anti-aging defend ของโปรตีนที่ชื่อว่า Klotho และ FOXO จริงๆเคยเล่าให้ฟังกันไปแล้วในบทความเรื่อง อะไรคือ “น้ำตานางฟ้า” (Mastic gum) ?? (ตอนที่ 2) แต่มาทบทวนกันอีกครั้งเพราะตอนนี้สารประกอบเครื่องสำอางที่ออกมาใหม่ๆในท้องตลาดเริ่มจับเอากลไกนี้มาพูดถึงกันเยอะเลยค่ะ
โดยปกติของกลไกการทำงานในร่างกายเมื่อผิวหนังหรือร่างกายได้รับรังสียูวีหรือภาวะเครียดอื่นๆเช่นอารมณ์ การใช้ชีวิต ความเครียด ผิวก็จะหลั่งสารสื่ออักเสบออกมา แล้วกระตุ้นให้โปรตีนตัวนึง (FOXO) ไม่ทำงาน เมื่อโปรตีนตัวนั้นไม่ทำงาน การซ่อมแซมเซลล์ผิวก็ลดลง ร่างกายก็จะมีโปรตีนอีกตัว (KLOTHO) มาช่วยสกัดกั้นสารอักเสบ โปรตีนข้างในเซลล์ก็ทำหน้าที่ได้เป็นปกติ ผิวก็เหี่ยว แก่ช้าลง
แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้นโปรตีนที่ชื่อว่า KLOTHO ก็ผลิตหรือทำงานได้น้อยลง (ดังกราฟในรูป) ทำให้ผิวคนเราก็แก่เหี่ยวเป็นวัฐจักรสังขารของชีวิต ยิ่งคนไหนที่มีปัจจัยมากระตุ้นบ่อยๆเช่นแสงแดด ความร้อน ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้แก่มากขึ้นเพราะ KLOTHO สู้ไม่ไหวแล้ว ดังนั้นสารยุคใหม่ๆเค้าก็เลยเพ่งเล็งมาที่เจ้าโปรตีนตัวนี้มากเป็นพิเศษ
การทำหน้าที่ของสารที่มีผลต่อยีนตัวนี้หลักๆคือ เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน KLOTHO ให้มากขึ้น เพิ่มสัดส่วนของ FOXO ที่ทำงาน ลดอนุมูลอิสระและสารสื่ออักเสบต่างๆที่เข้ามาสู่ร่างกาย ซึ่งเมื่อทำงานฟังก์ชั่นต่างๆร่วมกัน ก็จะทำให้เซลล์เสื่อมช้าลง ริ้วรอยจึงมาช้าลงนั่นเอง ซึ่งจริงๆสารที่มีกลไกนี้ก็เช่น สารสกัดน้ำตานางฟ้า สารสกัดสาหร่ายหิมะสีแดง เป็นต้น โดยแต่ละสารก็จะมีคุณสมบัติอื่นๆเพิ่มขึ้นมาด้วยแบบเฉพาะตัว ดังนั้นหากจะพัฒนาสูตรหรือเล่นการตลาดก็ต้องมองแนวทางว่าอยากให้ผลิตภัณฑ์นั้นๆออกมาในรูปแบบไหนแล้วเลือกสารที่มีเทคนิคนั้นๆลงไป ซึ่งคุณสามารถนำเทคโนโลยีใหม่อย่างในบทความนี้ไปปรับใช้กับเทคโนโลยีที่ผ่านมาเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดก็ได้นะคะ
ปรึกษาเรื่องการผลิตครีม การผลิตเครื่องสำอางและการผลิตอาหารเสริม ได้ที่ พรีมา แคร์ฯ เราเป็นโรงงานรับผลิตครีม เครื่องสำอางและอาหารเสริมที่มีคุณภาพและชำนาญการ เรามีทีมงานและผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ในทุกความต้องการที่คุณคาดหวังค่ะ