อัปเดตเทรนด์อาหารเสริมมาแรง-เผยสูตรมาแรงสำหรับผู้หญิง 40+ และโอกาสทองที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้ก่อนใคร!
ตอนนี้บอกเลยว่าตลาด สุขภาพและความงาม ในช่วงปี 2026 เป็นต้นไป กำลังจะเปลี่ยนไปครั้งใหญ่มากค่ะ!จากเมื่อก่อนที่คนแค่ "กิน" พวกสารอาหารเพื่อดูแลสุขภาพเฉย ๆ เนี่ย มันกำลังจะกลายเป็นยุคที่ทุกคน "ลงทุน" เพื่ออัพเกรดคุณภาพชีวิตตัวเองให้ดีที่สุดไปเลยกล่าวคือ อาหารเสริม สุขภาพ ผิว สมอง พลังงาน นอน และเทคโนโลยี จะรวมตัวเป็น ระบบเดียว เหมือน Wellness Ecosystem ที่ดูแลร่างกายแบบครบมิติ
นี่คือจุดเปลี่ยนที่นักวิเคราะห์ทั่วโลกเรียกว่าThe Wellness Shift + Functional Supplement Era ผู้บริโภคเริ่มมองอาหารเสริมเป็น “การลงทุนระยะยาวในสุขภาพชีวิต” ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย
สำหรับเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมไทยนี่คือโอกาสทองที่สุดในรอบหลายปี!Brain & Sleep Biohacking • Inside-Out Immunity • Metabolic Reset 2026
ลองนึกดูสิคะว่าชีวิตคนยุคดิจิทัลอย่างเรา ๆ เนี่ย มันมีอะไรท้าทายเยอะแยะไปหมด ทั้งความเครียดสะสมจากงาน, อาการสมองล้าเบลอ ๆ, หรือปัญหานอนไม่หลับ นี่แหละค่ะที่มันกำลังสร้าง ช่องว่าง ขนาดใหญ่ในตลาดอาหารเสริมที่รอให้คนทำธุรกิจอย่างคุณเข้าไปเติมเต็มช่องว่างนั้นค่ะ!
นี่คือโอกาสทอง จริง ๆ สำหรับคนที่ตั้งใจจะ สร้างแบรนด์อาหารเสริมให้ปัง การที่คุณจะเข้าใจ เทรนด์อาหารเสริม 2026 ที่กำลังมาถึงจึงไม่ใช่แค่เรื่อง "ควรทำ" แต่มันคือ ความจำเป็น ค่ะ! การรู้ว่าวัตถุดิบไหนคือ "โดดเด่น" จะช่วยให้คุณคิดค้นสูตรและวางแผนการตลาดที่แตกต่างและโดนใจลูกค้าได้จริง ๆเพื่อต้อนรับและเตรียมการให้พร้อมสำหรับเจ้าของแบรนด์ เราเลยจัดเต็มรวบรวม 5 หมวดอาหารเสริมสุดฮอต ที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานที่สุดของคนในปัจจุบัน มาให้คุณใช้เป็น 'ไกด์ไลน์' หรือ 'คู่มือสำคัญ' เพื่อก้าวเป็น ผู้นำตลาด ก่อนใครเลยค่ะ!
ปี 2026 อาหารเสริมจะเปลี่ยนจาก “กินเพื่อบำรุงทั่วไป” → เป็น กินแบบแก้โจทย์เฉพาะลึก เช่น สมองล้า, นอนไม่หลับ, ผิวอักเสบ, น้ำหนักดื้อ, ภูมิคุ้มกันลด
3 คีย์เวิร์ดใหญ่
Brain & Sleep Biohacking – Inside-Out Beauty & Immunity – Metabolic Reset & Energyเจ้าของแบรนด์ที่มองออกก่อน จะออกแบบสินค้าตรงชีวิตลูกค้าได้จริง → ได้ใจทั้งวัยทำงานและ ผู้หญิง 40+
ตลาดอาหารเสริมโลกกำลังโตต่อเนื่อง คาดทะลุ 400 พันล้านดอลลาร์ก่อนปี 2034เอเชีย–รวมไทยเป็น Growth Zone: protein, beauty-from-within, gut health, sports nutrition, immune balance
โอกาสทอง: แบรนด์ไทยที่เข้าใจ Holistic Wellness + Active Lifestyle + Functional Supplements รับรองไปได้ยาวแน่นอนค่ะ
รายงานระดับโลกยืนยันชัดว่า
สรุปแบบง่ายที่สุด
ลูกค้ายุคนี้มองอาหารเสริมไม่ใช่ “เม็ดในขวด”แต่เป็น “ระบบช่วยออกแบบชีวิตสุขภาพดี” ของเขา
ผู้บริโภคมองว่าความงาม สุขภาพ และการพักผ่อนเป็นเรื่องเดียวกันและต้องการอาหารเสริมที่ช่วย
ลูกค้าต้องการอาหารเสริมที่
ผลลัพธ์ต้องชัดเจน วัดได้ และอิงวิทยาศาสตร์ค่ะ
ปีนี้เทรนด์กินง่าย–สนุก–สะดวกมาแรงสุด โดยเฉพาะ
ต้องบอกว่าเทรนด์อาหารเสริมยุคนี้ไม่ได้มองแค่เรื่อง สุขภาพร่างกาย อย่างเดียวแล้วนะคะ แต่เขาเน้นไปที่เรื่อง สุขภาพองค์รวม หรือที่เราเรียกกันว่า Holistic Health ค่ะ! แล้วมันก็คือการดูแลที่ เกี่ยวกัน ไปหมดเลยค่ะ! คือการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจไว้ด้วยกันแบบลึก ๆ ไปเลยนั่นเอง และขอย้ำ อาหารเสริมมาแรงของปี 2026 คือ การเบนเข็มคีย์หลักไป Focus ที่ผู้หญิง 40+, วัยทำงาน และสายสุขภาพ มากขึ้นค่ะ


ปัญหาPain Point ของคนยุคนี้คืออะไร?
ก็คือเรื่อง ความเครียดเรื้อรัง จนพัง (อาการ Burnout นั่นแหละค่ะ), สมาธิไม่ดีเลย, ทำงานก็ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม, และที่สำคัญคือ นอนไม่หลับแบบมีคุณภาพ ต่อให้หลับไปแล้วก็ยังรู้สึกไม่สดชื่นอยู่ดี
ไอเดียสารสกัดพัฒนาสูตร
แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นแร่ธาตุพื้นฐานที่คนยุคใหม่ขาดกันเยอะมากค่ะ แต่มีบทบาทสำคัญกับระบบประสาทและสมองโดยตรง แมกนีเซียมช่วยให้กล้ามเนื้อและระบบประสาทผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดจากความเครียดสะสม และยังช่วยปรับสมดุลการทำงานของสมอง เหมาะมากสำหรับสูตรที่ต้องการสื่อสารเรื่อง การผ่อนคลายแบบไม่กดประสาท และ การนอนหลับที่มีคุณภาพ
สารตั้งต้นของ GABA (GABA-Precursor) GABA คือสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ “เบรกสมอง” ช่วยลดความตื่นตัวที่มากเกินไป แต่แทนที่จะใส่ GABA โดยตรง การใช้ GABA-Precursor จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง GABA ได้เองตามกลไกธรรมชาติ ส่งผลให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ลดความฟุ้งซ่าน และช่วยให้สมองเข้าสู่โหมดพักผ่อนได้ดีขึ้น เหมาะกับกลุ่มคนที่ เครียดง่าย คิดไม่หยุด หรือพักผ่อนไม่เต็มที่
แอล-ธีอะนีน (L-Theanine) สารสกัดเด่นจากชาเขียว ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำให้สมอง “นิ่งแต่ไม่ง่วง” L-Theanine ช่วยเพิ่มคลื่นสมอง Alpha ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะผ่อนคลายและสมาธิ ทำให้รู้สึกสงบ มีสมาธิ คิดงานได้ชัดขึ้น โดยไม่กดการทำงานของสมอง เหมาะมากกับสูตรที่ต้องการสื่อสารเรื่อง สมองปลอดโปร่ง สมาธิดี พร้อมโฟกัสในชีวิตประจำวัน
โอกาสที่คุณจะทำแบรนด์ปัง ลองพัฒนาสูตรให้อยู่ในรูปแบบ Gummy เคี้ยวหนึบหนับ หรือเป็น ผงช็อต(powder shot) ที่เน้นการกินในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงไปเลยก็ได้ค่ะ เช่น "Focus Shot" ที่กินก่อนเริ่มทำงาน หรือ "Sleep-aid Gummy" ที่กินก่อนเข้านอน แค่นี้ก็แตกต่างและโดนใจแล้วค่ะ
(The Defense System: วิตามิน D3, เห็ดสมุนไพร, โพรไบโอติก, Beta-Glucan, Zinc, Elderberry, Vitamin C)
ภูมิคุ้มกันที่ดี = นอนหลับดี + ผิวดี + พลังงานดี

ปัญหา Pain Point ของคนยุคนี้คืออะไร?
ก็คือความกังวลเรื่องสุขภาพในระยะยาวค่ะ ไหนจะต้องเจอเชื้อโรคใหม่ ๆ ไหนจะเรื่องมลภาวะอีก ทุกคนเลยอยากได้ "เกราะป้องกัน" ที่แข็งแรง เพื่อที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจใช่ไหมล่ะคะ?
อาหารเสริมกลุ่มนี้เลยต้องพัฒนาไปไกลกว่าแค่การป้องกันหวัดธรรมดา ๆ แล้วค่ะ แต่จะไปเน้นที่การสร้าง ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงแบบองค์รวม เลย เฉพาะการเชื่อมโยงระหว่าง ลำไส้และภูมิคุ้มกัน (Gut-Immunity Axis)ค่ะ
ไอเดียสารสกัดพัฒนาสูตร
วิตามิน D3 ตอนนี้คนเริ่มเข้าใจบทบาทของ D3 มากขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ ว่ามันมีผลกับการควบคุมระบบภูมิคุ้มกันโดยตรงเลย งานวิจัยเยอะมากที่บอกว่าถ้าเราขาด D3 เนี่ย มันส่งผลกระทบต่อความสามารถในการสู้กับการติดเชื้อของร่างกายชัดเจนเลย ดังนั้นการเสริม D3 เลยเป็นพื้นฐานที่เจ้าของแบรนด์ไม่ควรพลาดเลยค่ะ จะเน้นในผลิตภัณฑ์ที่เสริมสร้างกระดูกและภูมิคุ้มกันด้วยก็ได้
เห็ดสมุนไพร (เช่น Reishi, Turkey Tail) ตัวเด่นของกลุ่มนี้คือสาร Beta-Glucans ค่ะ! มันเป็น Polysaccharide ที่ได้รับการยอมรับว่ามีศักยภาพในการ กระตุ้นและปรับสมดุล เซลล์ภูมิคุ้มกันได้ดีมาก ๆ ตอนนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงทั่วโลกก็คือการทำ Multi-Mushroom Blend หรือการผสมผสานเห็ดหลาย ๆ ชนิดเข้าด้วยกันค่ะ
โพรไบโอติก (Probiotics) และ พรีไบโอติก (Prebiotics) เพราะว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันของเรา 70-80% อยู่ที่ลำไส้ค่ะ! ดังนั้นการทำตลาดโพรไบโอติกเลยขยายจากแค่เรื่อง "การขับถ่าย" ไปสู่เรื่อง "ภูมิคุ้มกัน" และ "สุขภาพอารมณ์" (Gut-Brain Axis) แล้วค่ะ แบรนด์ที่จะปังเลยต้องเน้นที่ สายพันธุ์เฉพาะ ที่มีผลวิจัยชัดเจนต่อระบบภูมิคุ้มกันนะคะ
(The Inner Glow: คอลลาเจน, แอสตาแซนทิน, เซราไมด์, Omega 3)

ปัญหา Pain Point ของคนยุคนี้คืออะไร?
คือเรื่องความกังวลเกี่ยวกับ ริ้วรอย ที่มาจากอายุและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆค่ะ (ทั้งแสงสีฟ้าจากจอ หรือ PM 2.5) ก็คือทุกคนต้องการผลลัพธ์ที่มัน ยั่งยืนกว่า แค่การทาครีมภายนอกอย่างเดียวใช่ไหมล่ะคะ?
เทรนด์นี้จึงเน้นการบำรุงลึกเข้าไปถึง ระดับเซลล์ เลยค่ะ เพื่อให้ผิว ผม เล็บ เราออกมาดูดีจริง ๆ ถ้าจะ สร้างแบรนด์อาหารเสริม กลุ่มนี้ ต้องเน้นความโปร่งใสของแหล่งที่มา และต้องเป็นรูปแบบที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ง่ายด้วยนะคะ
ไอเดียสารสกัดพัฒนาสูตร
คอลลาเจน (Collagen Peptide) ตลาดนี้โตตลอดค่ะ แต่ผู้บริโภคฉลาดขึ้นเยอะ! เขาต้องการ Peptide ที่มีโมเลกุลเล็ก ๆ (Low Molecular Weight) อย่าง Di-peptide หรือ Tri-peptide เพราะมันดูดซึมและเอาไปใช้ที่ผิวได้มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก ๆ การเน้น Peptide ที่มาจาก ปลาทะเลน้ำลึก (Marine Collagen) ก็ยังเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งค่ะ
แอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ตัวนี้เขาเรียกกันว่าเป็น "ราชินีแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ" เลยนะคะ! มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีหลายเท่า จุดขายที่เด็ดมากคือความสามารถในการ ปกป้องผิวจากแสงแดด และความชราจากแสง (Photo-aging) ซึ่งตอบโจทย์ชีวิตที่ต้องอยู่กลางแจ้งบ้าง อยู่หน้าจอตลอดบ้างได้ดีสุด ๆ ค่ะ
เซราไมด์ (Ceramide) ตัวนี้จะเน้นการทำงานของ เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เลยค่ะ การที่เรากินเซราไมด์เข้าไปจะช่วย เพิ่มความชุ่มชื้น ในชั้นผิว ลดการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวเราดูอิ่มน้ำและแข็งแรงขึ้น เหมาะมากสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เน้นแก้ปัญหาผิวแห้งกร้านหรือผิวแพ้ง่ายค่ะ
โอเมก้า 3 (Omega-3) สารอาหารสำคัญที่ทำงานทั้งจากภายในสู่ภายนอกค่ะ Omega-3 (โดยเฉพาะ EPA และ DHA) มีบทบาทช่วยลดการอักเสบของร่างกายและผิว ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิว และสนับสนุนการทำงานของ Skin Barrier ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องสุขภาพข้อ หลอดเลือด และสมอง ทำให้สูตรดูมีมิติ ไม่ได้ดูเป็นแค่ อาหารเสริมผิว แต่เป็น สูตรดูแลสุขภาพองค์รวม ที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากค่ะ

ปัญหา Pain Point ของคนยุคนี้คืออะไร?
ก็คือการที่ต้องมา สู้กับน้ำหนักตัว ที่มันขึ้นเอา ๆ เพราะชีวิตเรามัน นั่งทำงานอยู่กับที่ นี่แหละค่ะ! แถมทุกคนก็อยากได้ตัวช่วยที่ คุมระดับน้ำตาล ได้ดี ๆ โดยที่ ไม่ต้องกินยา เยอะ ๆ และที่สำคัญคือต้องการวิธีลดน้ำหนักที่มัน อยู่ได้นาน ไม่ใช่ทำแป๊บเดียวแล้วโยโย่
เทรนด์นี้เลยเปลี่ยนจากการเน้นแค่ "บล็อก" ไขมัน ไปเน้นที่การ “แก้ระบบเผาผลาญให้กลับมาปกติ” และ "ปรับสมดุลระบบเผาผลาญ" (Metabolic Health) อย่างถาวรเลยค่ะ โดยมีแนวคิดหลักคือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี
ไอเดียสารสกัดพัฒนาสูตร
เบอร์เบอรีน (Berberine) ตัวนี้กำลังเป็นที่จับตามองมาก ๆ เลยค่ะ! เพราะมีงานวิจัยที่บอกว่ามันช่วย ปรับปรุงความไวของอินซูลิน และลดการสร้างกลูโคสในตับด้วย จนบางทีก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับยา Metformin ในวงการแพทย์ทางเลือกเลยนะ นี่คือโอกาสดีเลยค่ะสำหรับแบรนด์ที่อยากจะเข้าถึงกลุ่มคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพระดับน้ำตาลแบบธรรมชาติ
โปรตีน (Protein) นอกจาก Whey Protein ที่เรารู้จักกันแล้ว ตอนนี้ โปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) ก็กำลังฮิตมาก ๆ เลยค่ะ โดยเขาจะเน้นที่ความยั่งยืนและความง่ายต่อการย่อยด้วย แบรนด์ควรพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็น Complete Protein (มีกรดอะมิโนครบถ้วน) และอาจจะผสมส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมเข้าไปด้วยก็ได้ค่ะ
พรีไบโอติก (Prebiotics) การตลาดของพรีไบโอติกจะเน้นไปที่การเป็น "อาหาร" ให้จุลินทรีย์ดีในลำไส้ของเราค่ะ ซึ่งจะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น มีการสร้างกรดไขมันสายสั้น (SCFA) ที่มีประโยชน์ และยังช่วย ลดการสะสมไขมันในช่องท้อง ได้อีกด้วยนะคะ
สารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract) เป็นสารสกัดคลาสสิกที่ยัง “ขายได้เสมอ” ค่ะ จุดเด่นอยู่ที่ Catechins โดยเฉพาะ EGCG ซึ่งช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน เพิ่มการใช้พลังงานของร่างกาย และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบ และสนับสนุนการควบคุมน้ำหนักได้ดี เมื่อนำมาใช้ร่วมกับ Berberine และ Prebiotics จะช่วยเสริมภาพสูตรให้ดูเป็น สูตรจัดการน้ำหนักแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่เร่งเผาผลาญอย่างเดียวค่ะ
(The Natural Booster ครีเอทีน, ถั่งเช่า, บีทรูท, CoQ10, Vitamin B, Ginseng)

ไอเดียสารสกัดพัฒนาสูตร
ครีเอทีน (Creatine) ตอนนี้วัตถุดิบตัวนี้กำลังถูกนำมาใช้ในมุมมองใหม่นะคะ ไม่ใช่แค่สำหรับนักเพาะกายแล้ว แต่เป็น "สารอาหารเพื่อพลังงานสมอง" (Brain Energy) ครีเอทีนจะช่วยในการสร้าง ATP ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ ดังนั้นการเสริมครีเอทีนก็ช่วยให้เราคิดได้ชัดเจนขึ้นและทำงานระยะสั้น ๆ ได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
ถั่งเช่า (Cordyceps) ตัวนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องการช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ออกซิเจน (VO2 Max) และความอึดทนของร่างกาย ถือเป็น Adaptogen ที่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูพลังงานหลังจากการทำงานหนัก หรือคนที่ออกกำลังกายระดับปานกลางไปจนถึงสูงค่ะ
บีทรูท (Beetroot Extract) ในบีทรูทมี ไนเตรท (Nitrate) สูงมากค่ะ ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็น Nitric Oxide (NO) ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และนำออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อกับสมองได้ดีขึ้นด้วย เหมาะสุด ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่องการ เพิ่มพละกำลัง และความสดชื่นทันทีเลยค่ะ
โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10 / CoQ10) เป็นสารสำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานระดับเซลล์ โดยทำงานในไมโทคอนเดรียซึ่งเป็น “โรงงานผลิตพลังงาน” ของร่างกาย ช่วยสนับสนุนการสร้าง ATP ควบคู่ไปกับครีเอทีนได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ CoQ10 ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเหนื่อยล้า และสนับสนุนสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ทำให้สูตรดูมีมิติ ทั้งพลังงาน ความอึด และการฟื้นฟูในระยะยาวด้วยค่ะ

การที่เรา รู้ ว่าเทรนด์อาหารเสริมปี 2026 คืออะไรเนี่ย มันเป็นแค่ ครึ่งทาง เองนะคะ! อีกครึ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้คุณชนะ ก็คือการที่คุณจะ นำเสนอสินค้า ออกสู่ตลาดได้ ฉลาด แค่ไหนค่ะ!
สำหรับการตลาดเชิงผลลัพธ์ (Effect-Based Marketing) คือหลักการง่าย ๆ ค่ะ สิ่งที่คุณต้อง เลิก คือการ ขาย 'ชื่อส่วนผสม' ค่ะ แต่ให้หันมา ขาย 'ผลลัพธ์' ที่ลูกค้าจะได้รับแทน!
ยกตัวอย่างนะคะ แทนที่จะบอกว่า 'มี Ashwagandha นะ' ก็เปลี่ยนเป็นคำพูดที่ว่า 'ช่วยให้คุณหลับได้ลึกขึ้นเหมือนแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม 100%' ไปเลยค่ะ! แค่นี้ก็แตกต่างแล้ว!
ลูกค้าต้องการอาหารเสริมที่
ใครทำสูตร Functional Supplements ได้ตรงจุดที่สุด ชนะค่ะ! จำไว้เลยนะคะ การเป็นผู้นำไม่ได้แปลว่าทำตามคนอื่น แต่แปลว่าคุณ รู้เทรนด์ก่อนใคร และ ลงมือทำ ทันที! โอกาสในการเป็นผู้บุกเบิกในตลาด อาหารเสริมมาแรง มันอยู่ตรงหน้าคุณแล้วนะคะ!
1) จาก “ผลิตภัณฑ์” “Functional Wellness Brand” ขายความหมาย + ผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่วิตามิน
2) ใช้ Data & AI เพื่อ Personalized Formula รู้ใจลูกค้ามากกว่าคู่แข่ง
3) จับมือ Wellness Partner เข้ายิม–คลินิก–สตูดิโอโยคะ ให้ลูกค้าได้ลองจริง
Brain & Sleep / Inside-Out Beauty / Metabolic Reset คือ 3 หมวดที่โตแรงสุด
ฮอร์โมน–ผิวแพ้ง่าย–การนอน–ภูมิ–น้ำหนัก
สูตรที่ผูกคำว่า “40+” = ติดตลาดง่าย
เพราะพกง่าย–กินง่าย–เหมาะกับชีวิตยุคใหม่
กำหนดกลุ่มเป้าหมาย → เลือกหมวดฟังก์ชัน → ออกแบบสูตรกับทีมวิจัยที่เข้าใจตลาด 2026
สำหรับเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม... อย่าปล่อยโอกาสนี้หลุดมือ!
เทรนด์อาหารเสริมปี 2026 ได้ชี้ทางให้คุณชัดเจนแล้วว่า ผู้บริโภคกำลัง "ลงทุน" ในคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของตัวเอง!
อย่ามัวแต่รอช้า! นี่คือเวลาที่ต้อง ลงมือทำ แล้วค่ะ! เริ่มต้นสร้างแบรนด์ของคุณวันนี้... ก่อนคู่แข่งจะทำ! ปรึกษาฟรี! กับทีม R&D เพื่อออกแบบสูตรอาหารเสริมบำรุงสมอง, เสริมภูมิคุ้มกัน, หรือควบคุมน้ำหนัก ที่ตอบโจทย์ เทรนด์อาหารเสริม 2026 โดยเฉพาะPrema Care We Care เพื่อนคู่คิดที่ดูแลคุณแบบห่วงใย ใส่ใจในทุกขั้นตอนสนใจ สั่งผลิตอาหารเสริม ทำแบรนด์อาหารเสริม ปรึกษาเราเลย
โรงงานรับผลิตครีม อาหารเสริม เครื่องสำอาง (www.premacare.co.th) ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
พร้อมช่วยคุณพัฒนาสูตร และวางกลยุทธ์ให้ตรงกับเทรนด์ความงามยุคใหม่จริง ๆ
Prema Care We Care เพื่อนคู่คิดที่ดูแลคุณแบบห่วงใย ใส่ใจในทุกขั้นตอน
สนใจ สั่งผลิตอาหารเสริม ทำแบรนด์อาหารเสริม ปรึกษาเราเลย
รับรู้ข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Inbox Facebook : : m.me/PremaCare
Line: @premacare หรือ https://bit.ly/AddLinePremaCare
Tel : 080-810-8109
Website : https://www.premacare.co.th/
Facebook : https://www.facebook.com/PremaCare/
แหล่งอ้างอิงข้อมูล (References)
รายงาน Global Wellness Trends 2025-2026 (เน้น Functional Foods & Supplements)
บทวิเคราะห์ตลาด Nootropics และ Adaptogens ในช่วงปี 2024-2026
ข้อมูลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ Astaxanthin และ Berberine ในการควบคุมเมตาบอลิซึม
รายงานตลาด Plant-Based Protein และ Probiotics สำหรับการดูแลระบบเผาผลาญ

รับรองคุณภาพตามมาตรฐานโรงงาน
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
สถานที่ตั้ง ส่วนโรงงาน
55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
สถานที่ตั้ง ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า
111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
เบอร์โทร ออฟฟิศ
02-886-3956 ถึง 57 กด 0เบอร์โทร ลูกค้าสัมพันธ์
0808-108-109วันทำการ
จันทร์ - เสาร์
เวลาทำการ
08.30 - 17.30
ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE
เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์