ยุคสมัยนี้คนรักสุขภาพหลายท่านก็คงอยากจะสร้างกล้ามเพื่อเพิ่มความดูดีให้แก่ร่างกาย บางคนก็อาศัยอ่านข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆ หรือลองผิดลองถูกด้วยตนเอง แต่ถ้าให้เห็นผลไวและเร็วไปเลยก็คือการพึ่งเทรนเนอร์ส่วนตัวที่เรียกว่า Personal trainer หรือ PT นั่นเอง เสียเงินหน่อย แต่กล้ามแน่นๆสวยๆมาแน่นอน

เปรียบได้กับการทำธุรกิจหรือสร้างแบรนด์ที่เมื่อคุณมีความรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรซักอย่างนึงขึ้นมา ก็เริ่มจากการหาข้อมูลจากคนใกล้ตัวที่มีความรู้ หรืออินเตอร์เน็ตที่มีเนื้อหาซึ่งต้องกรองอีกหลายชั้น มันจะดีกว่าหรือเปล่า ถ้าคุณรู้ว่าธุรกิจแบบนี้ต้องไปปรึกษาใครที่ชำนาญและเชี่ยวชาญพอที่คุณจะไว้ใจได้ วันนี้เราจึงนำเสนอ ‘พี่เลี้ยง’ สำหรับการทำธุรกิจมาฝากกันค่ะ

 
            1.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ กสอ. (DIP)

            พี่เลี้ยงคนแรกสำหรับคนทำธุรกิจเลยที่ต้องรู้จักคือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถ้าผู้ประกอบการรายเล็กเห็นชื่อกรมนี้แล้วอาจจะสงสัยว่าเค้าจะช่วยเราได้หรอ ดูแล้วน่าจะช่วยแต่อุตสาหกรรมใหญ่ๆรึเปล่า ขอบอกว่าไม่ว่ารายเล็กหรือใหญ่ ถ้าธุรกิจคุณจัดอยู่ในอุตสาหกรรมประเภทใดประเภทหนึ่ง กรมเค้าก็ช่วยให้คำปรึกษาได้ทั้งหมดค่ะ ที่นี่นอกจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมในอุตสาหกรรมที่คอยอัพเดทแล้ว ยังมีเรื่องของการจัดอบรมสัมนาเพิ่มพูนความรู้ รวมถึงการประกวดอุตสาหกรรมดีเด่นและยอดเยี่ยมไว้คอยเพิ่มศักยภาพของธุรกิจด้วยค่ะ ใครสนใจก็ลองเข้าไปหาข้อมูลได้ทางเวปไซต์ทางกรมเลยนะคะ http://www.dip.go.th/Default.aspx?tabid=55
 

 
            2.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.

            เป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐที่เหล่า SME หรือ start up หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีเพราะเปรียบประหนึ่งเจ้าภาพของธุรกิจ SME ที่นี้เปรียบเหมือนสถาบันแบบ one stop service สำหรับผู้ประกอบการซึ่งมีการให้บริการหลากหลายมาก เริ่มตั้งแต่การจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการ ให้คำปรึกษา วางแผนธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจหน้าใหม่ ไปจนถึงธุรกิจที่ต้องการอยากกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง รวมไปถึงวางแผนเรื่องสินเชื่อ มีการจัดอบรมสัมนาให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ หรือแม้กระทั่งการประกวดรางวัล SME ที่นี้ก็ยังสามารถเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นพี่เลี้ยงที่ครบวงจรจริงๆค่ะ http://www.sme.go.th/th/
 
 
            3.สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ อีสเม็ด ISMED

            จากชื่อสถาบันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าพี่เลี้ยงท่านนี้มาเพื่อพัฒนาโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นเข้าไปที่นี้เปรียบเหมือนคุณได้เข้าไปในคลังห้องสมุดเพื่อเหล่าชาว SME หรือผู้ประกอบการ ซึ่งเค้าก็จะเน้นการสัมนา อบรม ให้ความรู้ตั้งแต่เบื้องต้นไปจนถึงช่วยแก้ปัญหาระหว่างทางการทำธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่นสินค้าคุณเป็น OTOP ที่เน้นภูมิปัญหาชาวบ้าน เมื่อคุณเข้าไปที่นี่ เค้าก็จะช่วยคิดช่วยแนะนำเพื่อยกระดับคุณค่าและมูลค่าของสินค้าให้คุณได้ เป็นต้น เพราะฉะนั้นใครอยากได้ความรู้แน่นๆ แค่ลองเข้าเวปเค้าข้อมูลก็เริ่ดแล้วค่ะ http://www.ismed.or.th/
  
 
            4.กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP

            ผู้ประกอบการรายใดที่ปักธงว่าจะส่งออกธุรกิจไปต่างประเทศอย่างแน่นอนต้องเข้าหาพี่เลี้ยงท่านนี้เลยค่ะ เพราะแค่เข้าเวปไซต์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ครบครันไปด้วยข้อมูลที่แน่นปึ้ก เช่นอยากส่งสินค้าไปขายในแถบอาเซียน ก็จะมีข้อมูลของแต่ละประเทศ พื้นฐานเป็นยังไง ขั้นตอนการส่งออกต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งสินค้าแต่ละหมวดก็มีขั้นตอนต่างกัน แต่ไม่ต้องซีเรียสที่รายละเอียดมันเยอะแยะไปหมด เพราะทางกรมเค้ามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ข้อมูล พร้อมจัดสัมนาให้ความรู้เป็นประจำ
 
            ที่เด็ดคือThailand Trust Mark ที่ผู้ประกอบการหลายท่านคุ้นๆตากันก็เป็นส่วนหนึ่งของกรมนี้นะคะ เพราะงั้นใครอยากได้ตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพสินค้าที่กำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมคุณค่าของสินค้าและบริการของไทยที่ผลิตในประเทศไทย ก็ต้องลองติดต่อเข้าไปได้เลยค่ะ http://www.ditp.go.th/main.php?filename=intro
 

            5.กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือ DBD

            ที่นี่เป็นหน่วยงานรัฐที่ให้บริการทั้งในส่วนงานออนไลน์เช่น จดทะเบียนนิติบุคคล หรือผู้ทำบัญชี เป็นต้น หรือถ้าจะเข้าไปใช้บริการข้อมูล หาคลังความรู้ที่เกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจในแง่ต่างๆ เน้นในแง่ของผู้ประกอบการแบบนิติบุคคล หรืออย่างพวกการค้าขายออนไลน์ที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนซื้อต่างก็เข้ามาหาคำปรึกษาจากพี่เลี้ยงท่านนี้ทั้งนั้นล่ะค่ะ http://www.dbd.go.th/main.php?filename=intro_93


           
            6. ธนาคารต่างๆ

            ธนาคารนี่ถือว่าเป็นพี่เลี้ยงให้ธุรกิจคุณได้เลยนะคะ เพราะบางธนาคารเค้ามีโปรเจคแบบส่งเสริมธุรกิจอย่างจริงจังทั้งธุรกิจรายย่อยและรายใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วจะไปอยู่ในโหมดของการขอสินเชื่อเป็นหลัก ในที่นี้เราไม่ได้ให้คุณไปขอสินเชื่อนะ แต่หมายความว่าถ้าเข้าเวปของธนาคาร เค้าก็จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจให้อ่านกัน หรือเจ้าหน้าที่เค้าก็พร้อมให้คำปรึกษาแผนการลงทุน แผนการทำธุรกิจอะไรแบบนี้ค่ะ

            7. บริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ

            เช่นอยากทำธุรกิจขายเครื่องสำอาง อาหารเสริม พี่เลี้ยงของคุณก็จะเป็นบริษัทผู้ผลิต ซึ่งบริษัทที่มีประสบการณ์มายาวนานก็จะสามารถให้คำปรึกษาแก่คุณได้ว่าโปรเจคที่คุณจะทำมันโอเคหรือมีแนวโน้มความจะเฟล บางบริษัทอย่างพรีมาแคร์เอง ^*^ ก็สามารถให้คำแนะนำได้ทั้งในแง่ของตัวสินค้าและการตลาด เพราะถือว่าสองอย่างนี้ต้องไปด้วยกัน ธุรกิจถึงจะรุ่ง อย่างนี้เป็นต้นค่ะ

            จากตัวอย่างพี่เลี้ยงข้างต้นทั้ง 7 ท่าน ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในบรรดาพี่เลี้ยงที่จะมาคอยช่วยเหลือและให้การสนับสนุนธุรกิจของคุณ เพราะอย่างที่บอกว่า อะไรที่ไม่รู้ ก็ไม่ผิดที่ต้องหาคนที่เค้ามีประสบการณ์มาต่อยอดให้ธุรกิจคุณเดินหน้าได้ เพราะไม่มีใครรู้ไปทุกเรื่องหรอกค่ะ  

            ปรึกษาเรื่องการผลิตครีม การผลิตเครื่องสำอาง และผลิตอาหารเสริมได้ที่ พรีมา แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เราเป็นโรงงานรับผลิตครีม รับผลิตเครื่องสำอางและรับผลิตอาหารเสริม รวมถึงบริการสร้างแบรนด์ครีม สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง และสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่มีคุณภาพและชำนาญการ มีทีมงานและผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ในทุกความต้องการที่คุณคาดหวังค่ะ