ร้านค้าสมัยนี้ ยิ่งขายดีก็ยิ่งมีคนอยากมาเป็นตัวแทนเต็มไปหมด การมีตัวแทนก็จะยิ่งช่วยเพิ่มยอดขายของร้านให้เติบโตยิ่งขึ้น ทั้งในแง่มีคนมาช่วยขายแทนพนักงาน และมีการซื้อซ้ำๆในยอดที่มากขึ้นจากตัวแทนที่ขายอยู่เป็นประจำ และฐานลูกค้าประจำของตัวแทนเราที่จะมีมากขึ้นเองตามเวลา นับว่าระบบนี้มีแต่ได้ กับได้ ร้านค้าที่มีตัวแทนอยู่แล้วจะรู้ได้เลยว่ามีหลายๆเรื่องที่ต้องดูแลเพื่อให้ตัวแทนสามารถทำงานเพื่มยอดขายได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้พวกเค้าค้าขายอย่างมีความสุขและอยู่กับร้านเราไปนานๆ วันนี้พรีมาแคร์ได้รวบรวมเทคนิค เคลํดลับดีๆ ให้คุณเจ้าของแบรนด์ครีม เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง และเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม นำไปใช้กันค่ะ
1. กำหนดราคาชัดเจน
ตัวแทนที่มาขายสินค้ากับเรา แน่นอนอยู่แล้วว่าเค้าต้องคำนึงเรื่องความคุ้มค่า และกำไรที่สามารถทำได้ ดังนั้นต้องพิจารณาจากต้นทุน หากร้านค้าแม่บอกราคาที่ชัดเจนไม่ได้ ต้องมาคอยถามเช็คทีละครั้ง ก็ยิ่งทำให้เกิดความยากลำบาก ทางทีดีควรจะมีระบบที่แจ้งไปยังตัวแทนทุกคนอย่างทั่วถึงในครั้งเดียวว่าสินค้าแต่ละชิ้นมีราคาอะไรบ้าง หากมีการเปลี่ยนแปลงก็สามาถอัพเดตให้เห็นได้เหมือนๆกันทุกคน
2. การสนับสนุนการขาย
ตัวแทนนั้นมีทั้งประเภทสต๊อกสินค้าและไม่สต๊อกสินค้าเอง ในกรณีอย่างหลัง คงเป็นเรื่องยากที่เค้าจะรู้ข้อมูลสินค้าได้เอง รวมทั้งภาพสวยๆที่จะนำไปใช้ในการขาย การสนับสนุนตัวแทนที่ดีมากๆ คือให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเรื่องสินค้า ให้พวกเข้าสามารถนำไปเสนอขาย และตอบคำถามให้กับลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสื่อในการขาย ทั้งใบประกาศ เรทราคา รูปภาพสินค้าที่สวยงามรวมรวมไว้ให้ตัวแทนนำไปใช้ได้ง่ายๆ นอกจากนี้เจ้าของแบรนด์หลายๆที่ยังมีระบบการสอนงาน สร้างกำลังใจและและแนวคิดในการขาย ก็เท่ากับร้านเราได้สนับสนุนให้พวกเค้าขายได้มากขึ้น แถมยังได้ใจตัวแทนไปเต็มๆ
3. บอกสต๊อกโดยไม่ต้องคอยถาม
หากสต๊อกสินค้าของทางร้านไม่มีวันหมด คงจะเป็นเรื่องดีสำหรับตัวแทนที่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีของส่งหรือไม่เมื่อตกลงขายให้กับลูกค้า หรือกับตัวแทนที่สต๊อกสินค้าก็จะทำให้พวกเขาวางแผนการสั่งสินค้ามาสต๊อกเพิ่มได้สะดวกขึ้น แต่หากร้านค้าแม่ขายของหลายชนิด และสต๊อกสินค้าเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดคงจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่ตัวแทนต้องคอยมาถามทุกครั้งว่าสินค้าแต่ละชิ้นมีของหรือไม่ และเหลืออยู่เท่าไหร่ เพราะนอกจากจะทำให้ทำงานได้ช้าลง ยังเป็นการเพิ่มความสับสนและเหนื่อยมากขึ้น
4. สั่งง่าย ขายคล่อง
การขายสินค้าผ่านระบบตัวแทน ต่างจากการขายปลีกคือ ตัวแทนมักต้องกลับมาสั่งสินค้าซ้ำจากร้านแม่บ่อยๆเพื่อนำไปขายต่อ ดังนั้นแล้วสิ่งที่ตัวแทน(โดยเฉพาะตัวแทนมือทอง)ต้องการ ก็คือความง่ายในการสั่งซื้อ ที่นอกจากจะได้มาจากการรู้สต๊อกได้โดยไม่ต้องลุ้นจากข้อด้านบนแล้ว ยังรวมไปถึงเรื่องการไม่ต้องใส่ชื่อที่อยู่ร้านตัวเองใหม่ทุกครั้ง ระบบที่ช่วยให้อะไรๆเร็วขึ้น เช่น สั่งแล้วโอนได้เลย ไม่ต้องรอคอนเฟิม สามารถสั่งหลายออเดอร์ไปหลายๆที่อยู่ โดยชำระเงินเป็นก้อนเดียวได้ และระบบคอนเฟิร์มการส่ง แจ้งเลขพัสดุอย่างชัดเจน ตรงเวลาไม่ต้องคอยถาม เป็นต้น
5. จริงใจต่อลูกค้า
การตลาดที่ดีอย่างเดียวอาจจะส่งผลดีในระยะสั้นๆ ช่วยให้ได้ลูกค้าใหม่ๆ แต่สุดท้ายความจริงใจคือสิ่งที่อีกฝ่ายจะรับรู้ได้ และมัดใจให้อยู่ด้วยกันไปได้ยาวๆ ความจริงใจในเชิงร้านค้ากับตัวแทนมีตั้งแต่การบอกราคาเงื่อนไขที่ชัดเจนแต่แรก เรื่องสิทธิประโยชน์ของตัวแทนในแต่ละรับดับ ความจริงใจอยากให้ตัวแทนขายได้ โดยไม่แอบขายตัดราคา ส่งขอให้ลูกค้าโดยใช้ชื่อร้านของตัวแทนหรือตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก รวมทั้งความเป็นมิตร ความมีน้ำใจของร้าน การสื่อสารที่สุภาพ รวดเร็ว บริการดี เห็นแก่ประโยชน์ของตัวแทนเพื่อช่วยให้พวกเขาสร้างรายได้อย่างจริงใจนั่นเอง
อาจจะตีความได้ว่าสิ่งที่จะมัดใจตัวแทนได้ก็คือความชัดเจนและความจริงใจจากร้านค้านั่นเอง ถึงแม้การดูแลตัวแทนให้ทั่วถึงจะมีรายละเอียดที่ต้องทำมากมาย แต่การมีเทคโนโลยีเป็นระบบที่ดีก็จะช่วยเราได้เยอะ ไม่ว่าจะการแสดงราคา และส่วนลดเฉพาะอัตโนมัติ ระบบรวบรวมไฟล์ภาพที่ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง ระบบช่วยให้รายงานสต๊อกได้อย่างอัตโนมัติและอำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อ เพราะเพียงการให้ข้อมูลที่ชัดเจน ก็นับเป็นเป็นการแสดงความจริงใจต่อลูกค้าที่จะมัดใจให้เค้าเป็นตัวแทนกับเราไปนานๆแล้วค่ะ
ที่มา sellsuki blog