ธุรกิจสุขภาพ และความงามมาแรงในปี 2018 รู้ก่อนรวยก่อน
วันนี้พรีมาแคร์ได้รวมบทวิเคราะห์ธุรกิจมาแรง ปี 2018 แนวโน้มธุรกิจจากสถาบันวิจัยธุรกิจชั้นนำของไทย มาฝากกันค่ะ ในปี 2018 นี้ ธุรกิจสุขภาพและความงามมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความสนใจในการดูแลความงามและสุขภาพของตัวเองมากขึ้น จึงไปแปลกที่ธุรกิจสุขภาพ และความงามมาแรงในปีนี้ จะมีธุรกิจที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
ธุรกิจเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิว
ธุรกิจเครื่องสำอางรุ่งขึ้นทั่วเอเชียนี้เป็นผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์ของตะวันตกเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต แต่จะดูจากผลลัพธ์การใช้งานและความพึงพอใจของตนเป็นสำคัญ จึงเป็นโอกาสสำหรับ Startup ที่จะตื่นตัวคิดค้นนวัตกรรมในการผลิตเครื่องสำอางเพื่อดึงตลาดผู้บริโภค และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะเกิดการกระจายรายได้แก่ผู้ผลิตในประเทศ หรือถ้าหากปั้นแบรนด์ให้มีชื่อเสียงจนดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาซื้อในประเทศได้ ก็จะเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกประการหนึ่ง ในการสร้างแบรนด์ครีม แบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง สิ่งสำคัญที่จะต้องดูคือ จะต้องเป็นโรงงานที่มีมาตราฐานและได้รับการรับรอง
ธุรกิจวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
การใส่ใจดูแลสุขภาพของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาให้ความสำคัญในการดูแลเชิงป้องกันและเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปตามการขยายตัวของ Urbanization ใช้ชีวิตที่เร่งรีบ เวลาในการทำ อาหารทานเองน้อยลง ต้องสรรหาวิตามินและอาหารเสริมมาทานมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายยังคงได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคสามารถหาซื้อวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมได้สะดวกมากขึ้นจากหลากหลายช่องทาง อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ตัวแทนขายตรง รวมถึงช่องทางออนไลน์ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ล้วนส่งผลให้ภาพรวมของตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น
ธุรกิจบริการการดูแลสุขภาพจากภายในและภายนอก
ตัวอย่างการบริการดูแลสุขภาพจากภายใน เช่น บริการการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ การแพทย์เชิงป้องกันเฉพาะบุคคล รวมถึงอาหารเสริมและยารักษาโรคทางเลือก เป็นต้น ในขณะที่การบริการดูแลสุขภาพจากภายนอกจะมีตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อย เช่น ธุรกิจด้านความงามและการชะลอวัย บริการสปาและองค์ประกอบ รวมถึงการท่องเที่ยวแบบ Wellness Tourism
โดยการเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยสนับสนุนหลัก 3 ประการ ประการแรกคือ การขยายตัวของชนชั้นกลางทั่วโลกที่มีระดับรายได้ที่สูงขึ้นซึ่งให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย ประการที่สองคือ ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพของตนเองมากขึ้น ซึ่งถูกกระตุ้นจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases, NCDs) และความเครียดจากการทำงาน และสุดท้ายคือเทรนด์การท่องเที่ยวที่นิยมการสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม
ธุรกิจสถานเสริมความงาม (ผิวพรรณ รูปร่างและพัฒนาบุคลิกภาพ)
การมีบุคลิกภาพที่ดี รูปร่างหน้าตาที่พึงพอใจ ล้วนเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้แต่ละคนเป็นอย่างมาก ดังนั้นความต้องการดูดีทันสมัยและชะลอความแก่ตามวัย จึงกลายมาเป็นความต้องการของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในสังคมเมือง โดยกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างหน้าตา (เพื่อความสวยงามและรักษาโรค)ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ บุคลิกภาพ กลุ่มนี้มีความเต็มใจที่จะจ่ายสูงมาก หากได้รับความพึงพอใจเรื่องของความงามและความมั่นใจในการออกไปสู่สังคม
ธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามจากข้าว
มีแนวโน้มเติบโตสูง ตามการเติบโตของมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ความงามของไทยที่เพิ่มขึ้นถึง 8% ต่อปีในช่วงปี 2011-2016 และจะมีมูลค่าสูงถึงราว 1.3 แสนล้านบาทในปี 2020 โดยมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีสัดส่วนสูงถึง 75% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มเครื่องสำอาง 22% ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับใบหน้าในกลุ่มเครื่องสำอาง โดยเฉพาะแป้งมีมูลค่าตลาดสูงถึง 4.4 พันล้านบาทในปี 2016 ปัจจุบันไทยสามารถผลิตแป้งฝุ่นและแป้งอัดแข็งจากแป้งข้าวเจ้าได้ มีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติปลอดสารเคมีมากขึ้น ไทยยังสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากการพัฒนาสเต็มเซลล์จากข้าวหลายสายพันธุ์ เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดริ้วรอยและมีราคาถูกกว่าครีมสเต็มเซลล์จากต่างประเทศราว 7 เท่า อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ ออสเตรเลียและยุโรป ตามเทรนด์การชะลอวัยที่เป็นที่นิยมมากขึ้น
ธุรกิจอาหารเสริมบำรุงร่างกาย สมอง และสายตา
ตลาดที่มีศักยภาพในการซื้ออาหารเสริมซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภควัยทำงาน และวัยกลางคน (อายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป) โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความเครียดจากการทำงาน การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการใช้สายตามากเกินไป จากพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนได้ว่าเมื่อผู้บริโภคมีอายุมากขึ้นก็จะมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพมากกว่าความสวยความงาม สอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ทั้งเพศชายและเพศหญิงมีแนวโน้มออกกำลังกายเพื่อดูแลตัวเองมากขึ้น
ธุรกิจ Home Care
เป็นธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุในสังคมไทยที่นิยมอยู่บ้าน โดยที่ธุรกิจยังมีแนวโน้มพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งการบริการพื้นฐานที่ดูแลด้านสุขภาพไปสู่การบริการที่ครบวงจร ซึ่งรูปแบบธุรกิจแบบแฟรนไชส์เป็นการขยายธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากใช้เงินลงทุนต่ำ ให้ผลตอบแทนสูง และยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันไทยมีจำนวนผู้สูงอายุราว 11 ล้านคน หรือประมาณ 16% ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าภายในปี 2031 จะเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน หรือประมาณ 28% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ จากผลสำรวจของอีไอซี พบว่าผู้สูงอายุกว่า 90% ต้องการอาศัยอยู่ในบ้านของตนเองหลังจากที่เกษียณอายุ และด้วยรูปแบบสังคมที่เปลี่ยนไป
เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับธุรกิจเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงในปี 2018 ที่พรีมาแคร์ได้รวบรวมมาฝาก หลายคนคงมีไอเดียสร้างธุรกิจของตัวเองแล้วใช่ไหมค่ะ พรีมาแคร์ขอแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ การจะเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง และอาหารเสริม จะต้องเลือกโรงงานที่มีมาตราฐานการรับรองที่น่าเชื่อถือ ซึ่งพรีมาแคร์ของเราก็ได้รับการรับรองมาตราฐานระดับสากล และของไทย มากมาย และพรีมาแคร์ยังมีบริการ one stop service ที่เรียกได้ว่ามาที่เดียวคุณจะได้รับบริการที่ครบวงจร จั้งแต่การเลือกสินค้าที่มีให้เลือกมากมาย บริการออกแบบ บริการขึ้นทะเบียนขอเอกสารรับรอง บริการช่วยเหลือด้านการตลาด และอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าอะไรที่จำเป็นในการเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง อาหารเสริม มีครบถ้วนที่พรีมาแคร์ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
บอกหมดเปลือก 10 step สร้างแบรนด์ครีมเครื่องสำอางเวชสำอาง
Update 2021!!-10 ขั้นตอนการสร้างทำแบรนด์ครีม เครื่องสำอาง เวชสำอาง สกินแคร์ แบบละเอียด ผลิตครีม เจล เซรั่ม เอสเซนต์ น้ำตบ โทนิกของตัวเอง โดยพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตได้มาตรฐาน
เทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ สร้างแบรนด์ครีมอาหารเสริมให้ปัง
สร้างทำแบรนด์ครีม เวชสำอาง เครื่องสำอาง อาหารเสริม การตั้งชื่อแบรนด์สินค้าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ต้องใส่ใจ
8 วิธีกินรับประทานคอลลาเจนผงชงดื่ม กินยังไงตอนไหนให้ได้ผลสูงสุด ดีที่สุด
Update 2021!! - วิธีกินคอลลาเจนผงชงดื่มอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด-พรีมา แคร์ บริษัทโรงงานรับผลิตอาหารเสริม คอลลาเจนผง คอลลาเจนแคปซูล
บอกหมดเปลือก 10 Step ผลิตสร้างทำแบรนด์อาหารเสริม คอลาเจน ผง วิตามิน ชงดื่ม
update 2021-10ขั้นตอนการผลิตสร้างทำแบรนด์อาหารเสริม คอลลาเจนชงดื่ม วิตามินผง วิตามินชงดื่ม โดยบริษัทพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตอาหารเสริม
เลือกหมวดหมู่บทความ
(272)
(3)
(3)
(13)
(1)
(2)
(3)
(0)
(0)
(0)
(0)
(1)
(1)
ติดต่อทำแบรนด์ครีมทำแบรนด์อาหารเสริม
สถานที่ตั้ง
ส่วนโรงงาน
55/5 ม.7 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า
111/888 ม.5 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
อีเมล
info@premacare.co.th
โทร
0808-108-109, 02-886-3957