เพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ ถ้าทำการตลาดออนไลน์เป็น
ธุรกิจในปัจจุบันได้หันมาให้ความสำคัญกับการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันใช้เวลากับสื่อออนไลน์มากขึ้น จากการสำรวจของ ETDA เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย พบว่าประเทศไทย มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตราว 57 ล้านคน หรือคิดเป็น 82% ของประชากรทั้งประเทศ แถมยังคว้าแชมป์โลกด้านการใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตสูงสุด คือ 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวันอีกด้วย จากตัวเลขทั้งหมดนี้ ทำให้หลายธุรกิจต้องมีการปรับตัวเข้าสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยหวังว่าจะเป็นกลยุทธ์ใหม่ ที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด แต่การทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องง่าย หากเจ้าของแบรนด์ไม่ศึกษาให้รอบคอบ ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จ พรีมาแคร์จึงขอรวบรวมสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ครีม แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์เวชสำอาง แบรนด์อาหารเสริม ควรรู้ก่อน เปิดร้านออนไลน์ มาให้คุณๆได้รู้กันก่อนลงสนามจริงค่ะ
การตลาดออนไลน์มีคู่แข่งมหาศาล!
สื่อออนไลน์ถือเป็น “โอกาส” ทางธุรกิจที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนนะคะ เพราะใช้เงินลงทุนต่ำ ไม่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่เปิดหน้าร้านแพงๆ ไม่ต้องมีพนักงานคอยเฝ้าร้าน แถมยังสามารถอัพเดตข้อมูลเพื่อ “ขายของ” ได้ตลอดเวลา ที่สำคัญสามารถทำเป็นอาชีพเสริมโดยไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำ (จากเดิมที่ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะออกจากงานที่มั่นคงมาลองเสี่ยงดีไหม พอทำเป็นอาชีพเสริมได้ก็แทบไม่ต้องกังวลใดๆ เลย)
ด้วยข้อดีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้การแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหากเจ้าของแบรนด์ที่สนใจอยากทำธุรกิจผ่านสื่อออนไลน์คงต้องคิดหนัก เพราะคู่แข่งของคุณมีจำนวนมหาศาล ทางออกที่ดีทางหนึ่งคือ ต้องพยายามสร้างความแตกต่างของธุรกิจตัวเองให้ได้ และควรทำให้เร็วที่สุด เพื่อคุณจะได้โดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งอีกนับร้อยนับพัน
ออนไลน์ ไม่ฟรี ไม่มีเงินก็ไม่เป็นที่รู้จัก
“เปิดร้านออนไลน์ไม่ต้องเสียเงิน” หากเป็นเมื่อก่อนที่ Facebook หรือ Instagram หรือ Line@ ยังไม่ได้ปรับอัลกอริทึมใหม่ข้อความนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องจริง แต่ทุกวันนี้ Facebook กลับปรับให้ผู้ใช้งานเห็นเพจจากร้านค้าน้อยลง (และเห็นข้อความจากเพื่อนมากขึ้น) ดังนั้นไม่ว่าคุณจะโพสต์ข้อมูลเพื่อประชาสัมพันธ์ร้านมากแค่ไหน หากไม่จ่ายเงิน Boost post ก็แทบจะไม่มีใครเห็นเลย ดังนั้นใครที่จะกระโดดเข้ามาทำการตลาดออนไลน์ ก็ต้องเตรียมเงินสำหรับจ่าย “ค่าผ่านทาง” ให้กับ Facebook ด้วย บางร้านที่ต้องการเข้าถึงคนจำนวนมาก ก็อาจต้องยอมจ่ายเงินหลักหมื่นต่อเดือน เพื่อทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าของเรา หลักการนี้ไม่ต่างอะไรกับการเลือกทำเลตั้งร้าน ถ้าคุณอยากตั้งร้านในทำเลที่มีคนผ่านไปมาเยอะ คุณย่อมต้องจ่ายแพงกว่า ดังนั้นหากใครหวังพื้นที่ขายของฟรีๆ อาจจะต้องทำการบ้านหนัก (มากๆ) ในเรื่องการทำเนื้อหาให้น่าสนใจจริงๆ จนเกิดกระแสการแชร์ต่อในโลกโซเชียล
มีเงินก็ไม่พอ ต้องเข้าใจระบบด้วย
ข้อนี้เชื่อมโยงกับข้อที่แล้วคือ นอกจากจะมีเงินแล้ว คุณต้องรู้จักการทำงานของระบบ Facebook ด้วย โดยการจ่ายเงินเพื่อแลกกับการทำให้ผู้ใช้งานรู้จักแบรนด์ของเรามี 2 ประเภท คือ Like Ad คือ สร้างฐานแฟนเพจ วิธีนี้จะทำให้มีคนติดตามเพจของคุณมากขึ้น ส่งผลให้เวลาคุณโพสต์ข้อความใดๆ ลงไป ก็จะมีคนเห็นโพสต์นั้นมากขึ้นตามไปด้วย คุณต้องคัดเลือกภาพที่เหมาะสม สอดคล้องกับประเภทของเพจ เช่น หากคุณเปิดเพจขายเครื่องสำอาง ภาพที่ในโปรโมทก็ต้องเป็นภาพเกี่ยวกับเครื่องสำอาง สรรพคุณของตัวสินค้า สาระความรู้ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และมีตัวอักษรปรากฎบนภาพไม่เกิน 20% ของภาพทั้งหมด ควรเป็นภาพที่มีความคมชัดสูง เป็นภาพที่ถูกลิขสิทธิ์ หากคุณทำตามระเบียบของ facebook ได้ทั้งหมด โฆษณาโปรโมทของคุณก็จะมีผู้พบเห็นมากขึ้นตามไปด้วย (แถมราคาก็ถูกลง)
การตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นโอกาสที่จะช่วยให้ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ แต่ในเวลาเดียวกันคุณก็จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้งบประมาณที่ใช้ เวลา และทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการทำธุรกิจทุกธุรกิจ สิ่งที่สำคัญคือ ก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง รู้จักลูกค้า รู้จักคู่แข่งขัน เท่านี้ก็จะช่วยให้การทำการตลาดออนไลน์ของคุณ ไปรอดได้อย่างสบายค่ะ