วิธีเลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิว เคล็ดลับการสร้างแบรนด์สุดปัง

เชื่อว่าเจ้าของแบรนด์ครีมรองพื้นหลายๆ ท่านกังวลว่า ลูกค้าของตัวเองใช้ครีมรองพื้นที่จ้างผลิตจากโรงงานแล้ว รองพื้นแบรนด์ของเราแล้วหน้าจะเยิ้ม หน้าแห้ง หน้าแคร็ก เป็นคราบ ตกร่อง หรือเปล่า เจ้าของแบรนด์หลายๆ ท่านอาจจะกำลังลังเลว่า ครีมรองพื้น แบบไหนจะเหมาะกับลูกค้าของเรา และอาจจะกังวลว่าสีอาจจะไม่แมชกับลูกค้าอีก ยังต้องคอยกังวลว่าเนื้อรองพื้นจะเหมาะกับลูกค้าของเราหรือเปล่า แล้วเราจะเลือกยังไงให้เหมาะกับผิวลูกค้าของเรา สร้างแบรนด์รองพื้นอย่างไรให้ตรงใจลูกค้า วันนี้พรีมา แคร์ชวนมาดู 6 ประเภทรองพื้นยอดนิยมที่หาซื้อได้ง่าย เราจึงขอแนะนำด้วยความแคร์ ตามนี้เลยค่า

ประเภทที่ 1 สร้างทำแบรนด์รองพื้นแบบเนื้อครีม (Cream Foundation) เนื้อรองพื้นแบบครีมจะมีความเข้มข้นมาก เน้นงานปกปิดแบบ Full Coverage ปกปิดได้อย่างเรียบเนียน เนื้อมีความแน่นจึงทำให้เกลี่ยยาก จึงควรวอร์มเนื้อครีมบนหลังมือก่อนการลงบนผิวจริงเพื่อป้องกันการเกิดคราบได้

เนื้อสัมผัส: เนื้อแน่น เกลี่ยยาก

ความปกปิด: ปกปิดสูง

เหมาะกับสภาพผิว: ผิวแห้ง ผู้ที่ต้องการแต่งหน้าแบบ Full coverage แต่งหน้าออกงาน

ข้อดี: เน้นปกปิด ติดทนนาน ผิวเรียบเนียน

ประเภทที่ 2 สร้างทำแบรนด์รองพื้นแบบแบบทิ้นท์ (Tinted Moisturizer)เป็นรองพื้นเน้นงานผิว ไม่เน้นปกปิด เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเนื้อหนาหนักหน้า ลุคธรรมชาติ แต่งหน้าเหมือนไม่แต่ง ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี ซึ่งถ้าท่านใดอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรองพื้นประเภทนี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> รองพื้นแบบทิ้นท์ มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ 

เนื้อสัมผัส: มีความบางเบา ให้สัมผัสสบายผิว

ความปกปิด: ปกปิดน้อย เน้นงานผิวธรรมชาติ

เหมาะกับสภาพผิว: ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

ข้อดี: ทิ้นท์ มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ มักจะผสมสารกันแดดและสารบำรุงไว้ในตัวรองพื้นทำให้ประหยัดเวลาในการเตรียมผิวหน้าได้อย่างดี

ประเภทที่ 3 สร้างทำแบรนด์รองพื้นแบบแป้งหรือแป้งผสมรองพื้น (Powder Foundation) รองพื้นแบบแป้งใช้งานง่าย พกพาสะดวก สามารถซับหรือเติมระหว่างวันได้ ไม่ยุ่งยาก ไม่เลอะเทอะ มีทั้งแบบปกปิดน้อย ไปจนถึงปกปิดได้เนียนกริบ

เนื้อสัมผัส: เนื้อแป้งฝุ่นอัดแข็งละเอียด

ความปกปิด: ปกปิดน้อย-สูง

เหมาะกับสภาพผิว: ทุกสภาพผิว แต่ถ้าผิวแห้งมากอาจจะไม่เหมาะ เพราะอาจเป็นขุยได้

ข้อดี: พกพาง่าย ใช้ซับความมันระหว่างวันได้ ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เหมาะกับผู้เริ่มต้นแต่งหน้า

ประเภทที่ 4 สร้างทำแบรนด์รองพื้นแบบน้ำหรือแบบลิขวิด (Liquid Foundation)  เนื้อรองพื้นแบบที่หลายคนคุ้ยเคย สามารถหาซื้อได้ง่าย เนื้อสัมผัสมีความเหลวคล้ายน้ำ เกลี่ยง่าย ระดับการปกปิดขึ้นอยู่กับความข้นของเนื้อรองพื้นที่แต่ละแบรนด์ผลิตออกมา ซึ่งสามารถแยกออกมาได้ 3 ประเภทดังนี้

4.1 Oil Free Liquid Foundation: สูตรปราศจากน้ำมันหรือรองพื้นเนื้อแมตต์ ให้ลุคแมตต์ ไม่มันวาว ไม่เยิ้มระหว่างวัน และไม่อุดตันรูขุมขน

เหมาะกับสภาพผิว: ผิวมัน ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว

4.2 Oil Based Liquid Foundation: สูตรนี้มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน ส่วนผสมรองเป็นน้ำ จึงมีความชุ่มชื่นมากกว่าแบบแรก ให้ลุคฉ่ำวาว โกว์ลใส มักจะปกปิดดีกว่ารองพื้นแบบน้ำชนิดอื่นเพราะเนื้อสัมผัสมีความเข้มข้นกว่า

เหมาะกับสภาพผิว: ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

4.3 Moisturizing Base Liquid Foundation: สูตรนี้มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำ ส่วนผสมรองเป็นน้ำมัน ให้ผิวดูชุ่มชื้น เนื้อเข้มข้นน้อยกว่า แบบ Oil Based Liquid Foundation จึงให้สัมผัสบางเบาไม่หนักหน้า สบายผิว

เหมาะกับสภาพผิว: ผิวธรรมดา  

ลักษณะของรองพื้นแบบน้ำหรือแบบลิขวิด

เนื้อสัมผัส: เนื้อเหลว เบลนง่าย เกลี่ยง่าย

ความปกปิด: ปกปิดน้อย-ปานกลาง ขึ้นอยู่กับความข้นของเนื้อรองพื้น

ข้อดี: ใช้ง่าย เกลี่ยง่าย ไม่อุดตัน เหมาะกับการใช้ฟองน้ำเกลี่ย

ประเภทที่ 5 สร้างทำแบรนด์รองพื้นแบบมูส (Mousse Foundation)     เนื้อฟองครีมนุ่มบางเบามาก เนื้อวิปมูสแบบที่ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน เกลี่ยง่าย ใช้ง่าย ไม่ตกร่อง เมื่อเซตตัวแล้วจะให้ลุคแมตต์ แห้งไปกับผิวคล้ายแป้ง ช่วยเติมล่องลึกได้ด้วย

เนื้อสัมผัส: เนื้อฟองครีมนุ่ม

ความปกปิด: ปกปิดน้อย-ปานกลาง

เหมาะกับสภาพผิว: ผิวมัน

ข้อดี: เติมร่องริ้วรอยได้ดี ไม่ตกร่อง จึงเหมาะกับผู้มีปัญหาริ้วรอยเยอะ

ประเภทที่ 6 สร้างทำแบรนด์รองพื้นแบบแท่ง (Stick Foundation) เนื้อแน่น เข้มข้นไม่เหลวเลอะเทอะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทาง พกพาง่าย หยิบใช้สะดวก เสมือนพกลิปสติกหรือแป้งพัฟ ใช้เติมระหว่างวันได้ แค่ปาดแล้วใช้มือ พัฟ หรือแปรงเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เนื้อรองพื้นมีความเข้มข้นจึงปกปิดริ้วรอย รอยแดง รอยสิวได้ดีสามารถใช้แทนคอนซิลเลอร์ได้เลย สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหน้าอาจเป็นขุยได้ แนะนำให้เตรียมผิวให้ดีก่อนใช้ และวอร์มครีมก่อนทา เพื่อป้องกันการเกิดคราบหรือเลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวเช่น ไฮยาเป็นต้น สำหรับคนผิวมันอาจทำให้หน้าเยิ้มได้ ควรเลือกเนื้อครีมที่ไม่มันมาก

เนื้อสัมผัส: เนื้อแน่น

ความปกปิด: ปกปิดสูงสุด

เหมาะกับสภาพผิว: ผู้ที่ต้องการการปกปิดสูงสุด

ข้อดี: ติดทน เกาะผิวได้ดี ผิวเนียน หน้าเป๊ะได้ทั้งวัน

อย่างไรก็ดีพรีมา แคร์ว่าการมีรองพื้นหลายๆแบบติดบ้านไว้เพื่อเลือกใช้ หรือปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ก็เป็นสิ่งที่สาวๆหลายคนทำใช่มั้ยล่ะค่ะ เช่น ลุคไปเรียนไปทำงานอาจจะเป็นรองพื้นเนื้อบางเบาไม่ต้องปกปิดหนา หนักหน้ามากเพื่อให้ผิวได้หายใจ แต่ถ้ามีงานสำคัญอาจจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปกปิดได้ดี เน้นความเนียนความกริบมากกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าสภาพผิวหน้าเราอาจปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมเช่น นอนดึก หน้าโทรม หมองคล้ำผิวอาจแห้งมากกว่าปกติก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ควรมีเนื้อรองพื้นหลายๆแบบติดบ้านไว้ฉุกเฉินเพื่อเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ค่ะ ซึ่งถ้าท่านใดสนใจสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง ทำแบรนด์รองพื้น สร้างแบรนด์ครีม สร้างแบรนด์สกินแคร์  ผลิตครีม สามารถติดต่อสอบถามทางพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตครีม เซรั่ม ผลิตอาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง สกินแคร์ น้ำตบ essence มาตรฐาน GMP มีประสบการณ์ มากว่า 20 ปี สามารถให้คำแนะนำท่านในการพัฒนาสูตรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการแบบ ONE STOP SERVICE มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา และคำแนะนำฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ

สายด่วนโทร 080-8108109 ได้เลยค่า