เคลียร์ให้ชัดปัญหาผิวหน้า ฝ้า กระ จุดด่างดำ ต่างกันยังไง

             ปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่คอยกวนใจของใครหลายๆคน และมักจะเกิดกับสาวไทยหรือสาวเอเชียมากที่สุด เนื่องจากภูมิประเทศตั้งอยู่ในเขตร้อน หรือ Tropical Zone ซึ่งมีแสงแดดตลอดทั้งปี ทั้งยังมีมลภาวะ ควัน หรือฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศ ก็ล้วนส่งผลต่อผิวพรรณของเรา ทำให้ผิวเราเกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ตามมา ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำแล้ว เราก็ควรหมั่นใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ พร้อมใช้สกินแคร์ที่เป็นสูตรเฉพาะ เพื่อรักษาปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำที่เกิดขึ้นใบหน้า

แต่ก่อน.........จะเลือกหาสกินแคร์ดีๆในการรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดำ นั้น วันนี้พรีมา แคร์ จะพาไปทำความรู้จักกับฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้ละเอียดก่อนนะคะ ว่า ฝ้า กระ จุดด่างดำ ต่างกันยังไงเพื่อจะได้แก้ไขปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างตรงจุด

               ฝ้า (Melasma) มีลักษณะเป็นรอยปื้นหรือแผ่นสีน้ำตาลบนใบหน้า มีหลายขนาด หลายรูปทรง เกิดจากการเพิ่มจำนวนเม็ดสีที่ผิวหนังซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด สามารถเกิดได้ทั่วบริเวณใบหน้า แต่จะพบมากบริเวณ โหนกแก้ม หน้าผาก คาง ส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในวัย 30-50 ปี

ฝ้า สามารถแบ่งประเภทได้ถึง 4 ชนิด ดังนี้

1. ฝ้าตื้น (Epidermal type) จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ และมักมีขอบเขตชัดเจน
2. ฝ้าลึก (Dermal type) อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าชั้นหนังกำพร้า มีลักษณะเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน มีขอบเขตไม่ชัด วิธีรักษาฝ้าลึกทำได้ยากกว่าฝ้าตื้น
3. ฝ้าผสม (Mixed type) คือมีทั้งฝ้าแบบตื้น และฝ้าแบบลึก เป็นฝ้าชนิดที่พบมากที่สุด
4. ฝ้าที่ไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่าเป็นฝ้าชนิดใด (Indeterminate type) มักพบในผู้ที่มีสีผิวเข้มมาก หรือคล้ำมาก เช่น ชาวแอฟริกัน

               กระ (Freckles) มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆสีน้ำตาล หรือสีดำ แต่ละจุดจะกระจายไปรอบๆ ไม่เป็นรอยปื้น หรือเป็นแผ่น สาเหตุการเกิด กระ เหมือนกับ ฝ้า พบได้มากในบริเวณใบหน้า จมูก แก้ม หรือลำคอ

กระ สามารถแบ่งประเภทได้ถึง 4 ชนิด ดังนี้

1. กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนขนาดเล็ก มักเป็นบริเวณใบหน้าหรือส่วนที่โดนแสงแดดบ่อยๆ
2. กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีเทาที่อยู่ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ วิธีการรักษาจะยากกว่ากระแบบตื้น
3. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มสีน้ำตาลหรือดำ ผิวอาจจะเรียบหรือขรุขระก็ได้ สามารถเกิดได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว
4. กระแดด  มีลักษณะเป็นจุดๆ สีน้ำตาล สามารถกระจายอยู่ได้ตามใบหน้าและร่างกาย

               จุดด่างดำ (Dark Spot) มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ มีรูปร่างไม่แน่นอน มีขอบเขตชัดเจน และมักเกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เช่น รอยดำที่หลงเหลือจากการอักเสบของสิว สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วใบหน้า และตัวกระตุ้นที่สำคัญคือแสงแดดที่ทำให้รอยดำนั้นเด่นชัดขึ้น

ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการเกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ มีดังนี้

1. แสงแดด ทั้งรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของทุกปัญหาผิว
2. กรรมพันธุ์ จากการค้นคว้าวิจัยพบว่า 30-50% ของคนที่เป็น ฝ้า กระ จุดด่างดำ นั้นจะได้รับการถ่ายทอดจากทางพันธุกรรม
3. ฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงมีผลในการกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีมากขึ้น เช่น ในขณะตั้งครรภ์ หรือการรับประทานยาคุมกำเนิด
4. ยา และเครื่องสำอางบางชนิด ยาบางชนิดส่งผลให้เกิดฝ้า กระ ผื่นดำคล้ายฝ้า และจุดด่างดำ เช่น ยากันชัก หรือการแพ้น้ำหอมในเครื่องสำอาง ก็มีส่วนในการกระตุ้นการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ
5. การขาดวิตามิน สายปาร์ตี้ทั้งหลายต้องมีสะดุ้งกับข้อนี้เลยจร้า เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากไปจะส่งผลให้ร่างกายขาดวิตามินได้ง่ายที่สุด เมื่อร่างกายขาดวิตามิน เช่น วิตามินบี 12 จะส่งผลให้ร่างกายแปรปรวน และเกิดปัญหาผิวอย่าง ฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้เช่นกัน

เมื่อทราบถึงความแตกต่างและปัจจัยเสี่ยงของการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ กันแล้ว เราจะเห็นได้ว่าตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ก็คือ รังสี UV ในแสงแดด ดังนั้นเราจึงควรดูแลผิวหน้าตั้งแต่วันนี้ โดยหลักๆคือ ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหาร ผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย และทาครีมกันแดดเป็นประจำ สุดท้าย...คืออย่าลืมสร้างนิสัยที่ดีในการดูแลผิวด้วยนะคะ เพียงแค่นี้ผิวของสาวๆก็จะดูดี ดูเฮลตี้ สไตล์สาวมั่นหน้าใสได้อย่างแน่นอนค่ะ

สนใจสร้างแบรนด์ความงาม ทำแบรนด์เรื่องสำอาง สั่งทำครีม หรือปรึกษาการผลิตสร้างแบรนด์เวชสำอาง อาหารเสริม สามารถปรึกษาเราได้ฟรีพร้อมรับข้อมูลข่าวสารดีๆอัพเดตก่อนใครได้ที่ Line OA  @premacare หรือสแกนได้เลยนะคะ