พบกับแหล่ง Vitamin C ชั้นยอดในอาหารไทยที่คุณคุ้นเคย พร้อมเคล็ดลับการเลือกวัตถุดิบและการปรุงอาหารเพื่อคงคุณค่าวิตามินซีไว้สูงสุด เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ
วิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างยิ่ง แม้ว่าร่างกายของเราจะไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เอง แต่ธรรมชาติก็ได้มอบแหล่งวิตามินซีอันอุดมสมบูรณ์ไว้ในอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารไทยที่เราคุ้นเคยกันดี บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความสำคัญของวิตามินซี แหล่งอาหารไทยที่เป็นขุมพลังของวิตามินซี วิธีการเลือกวัตถุดิบ และเคล็ดลับการปรุงอาหารเพื่อคงคุณค่าวิตามินซีไว้ให้ได้มากที่สุด
วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น
วิตามินซีช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นปราการด่านสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมของเซลล์และโรคเรื้อรังต่างๆ
วิตามินซีจำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูกอ่อน เส้นเอ็น และหลอดเลือด ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เต่งตึง และข้อต่อแข็งแรง
วิตามินซีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่ไม่ใช่ฮีม (Non-heme iron) ที่พบในพืชผัก
วิตามินซีมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทบางชนิด และช่วยในการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย
ด้วยบทบาทที่หลากหลายและสำคัญนี้เอง ร่างกายจึงต้องการวิตามินซีอย่างสม่ำเสมอเพื่อการทำงานที่เป็นปกติและการมีสุขภาพที่ดี
อาหารไทยไม่ได้มีดีแค่รสชาติจัดจ้านและกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งของวิตามินซีที่น่าทึ่งอีกด้วย ลองมาดูกันว่ามีวัตถุดิบอาหารไทยชนิดใดบ้างที่เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นยอด:
• ฝรั่ง: ผลไม้รสชาติหวานอมเปรี้ยวที่หารับประทานได้ง่ายตลอดทั้งปี ฝรั่งเป็นแหล่งวิตามินซีที่สูงมาก โดยเฉพาะฝรั่งดิบจะมีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าฝรั่งสุก
• พริกสด: ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า หรือพริกหยวก พริกสดทุกชนิดล้วนเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีเยี่ยม ยิ่งมีรสชาติเผ็ดร้อนมากเท่าไหร่ ปริมาณวิตามินซีก็มักจะสูงตามไปด้วย
• ใบมะกรูด: นอกจากกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ใบมะกรูดยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย มักถูกนำมาใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหารไทยหลากหลายชนิด เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด
• ยอดมะขามอ่อน: ยอดอ่อนของต้นมะขามมีรสเปรี้ยวอมฝาด และเป็นแหล่งของวิตามินซีที่ดี มักนำมาประกอบอาหาร เช่น แกงส้ม ยำ หรือรับประทานสดคู่กับน้ำพริก
• มะนาว: ผลไม้รสเปรี้ยวที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทยหลายชนิด มะนาวเป็นแหล่งวิตามินซีที่สำคัญ และยังช่วยเพิ่มรสชาติและความสดชื่นให้กับอาหาร
• ผักใบเขียว: ผักใบเขียวหลายชนิด เช่น คะน้า บรอกโคลี ผักกาดขาว ก็มีวิตามินซีในปริมาณที่น่าสนใจ แม้จะไม่สูงเท่าผลไม้บางชนิด แต่การบริโภคผักใบเขียวเป็นประจำก็ช่วยเสริมปริมาณวิตามินซีให้กับร่างกายได้
• มะเขือเทศ: ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศดิบหรือนำไปปรุงสุก มะเขือเทศก็เป็นแหล่งของวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีจากอาหารอย่างเต็มที่ การเลือกวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ:
ผักและผลไม้ที่เก็บเกี่ยวใหม่ๆ และยังสดอยู่จะมีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าผักผลไม้ที่เก็บไว้นานแล้ว
เลือกผักและผลไม้ที่มีสีสันสดใส ไม่เหี่ยวเฉา หรือมีรอยช้ำ เพราะวิตามินซีจะค่อยๆ สลายตัวเมื่อผักผลไม้เริ่มเสื่อมสภาพ
ควรบริโภคผักและผลไม้ภายใน 1-2 วันหลังจากการซื้อ เพื่อให้ได้รับวิตามินซีมากที่สุด
ผักและผลไม้ตามฤดูกาลมักจะมีความสดใหม่และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า
วิตามินซีเป็นวิตามินที่ไวต่อความร้อน แสง และการออกซิเดชั่น ดังนั้นวิธีการปรุงอาหารจึงมีผลต่อปริมาณวิตามินซีที่เหลืออยู่ในอาหาร
• กินสด: การรับประทานผักและผลไม้สดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้รับวิตามินซีอย่างเต็มที่ เช่น การทานฝรั่ง มะเขือเทศสด หรือผักสดต่างๆ คู่กับน้ำพริก
• ลวกหรือนึ่ง: การลวกหรือนึ่งผักในระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยรักษาปริมาณวิตามินซีไว้ได้มากกว่าการต้มหรือผัดนานๆ ควรใช้น้ำน้อยและระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้
• ต้ม: หากจำเป็นต้องต้ม ควรใช้น้ำเดือดและระยะเวลาสั้นๆ เช่นกัน และควรหลีกเลี่ยงการต้มผักซ้ำหลายครั้ง
• ผัด: การผัดผักควรใช้ไฟแรงและระยะเวลาสั้นๆ เพื่อลดการสูญเสียวิตามินซี
• หลีกเลี่ยงการแช่น้ำนานๆ: การแช่ผักและผลไม้ในน้ำนานๆ จะทำให้วิตามินซีละลายออกมากับน้ำได้
• ปรุงอาหารด้วยความเป็นกรด: การเติมส่วนผสมที่เป็นกรด เช่น น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อยในขณะปรุงอาหาร อาจช่วยรักษาวิตามินซีได้บ้าง
ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำให้บริโภคต่อวันจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และสภาวะสุขภาพ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ควรได้รับวิตามินซีประมาณ 75-90 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถได้รับจากการบริโภคผักและผลไม้หลากหลายชนิดในแต่ละวัน
แม้ว่าวิตามินซีจะเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำและร่างกายสามารถขับออกทางปัสสาวะได้หากได้รับมากเกินไป แต่การบริโภควิตามินซีในปริมาณที่สูงมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ หรือปวดท้อง ดังนั้นจึงควรบริโภควิตามินซีจากอาหารให้สมดุล และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหากต้องการรับประทานวิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริม
อาหารไทยไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยถูกปาก แต่ยังเป็นแหล่งวิตามินซีที่สำคัญต่อสุขภาพ การทำความเข้าใจถึงแหล่งวิตามินซีในอาหารไทย การเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ และการปรุงอาหารอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากวิตามินซีอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน อย่าลืมใส่ใจในการเลือกสรรและปรุงแต่งอาหารไทยในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอและมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง
วิตามินซีไม่เพียงแต่มีบทบาทด้านสุขภาพ แต่ยังเป็น สารออกฤทธิ์ยอดนิยมในเครื่องสำอาง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
• ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ: วิตามินซีช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ
• เพิ่มความกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ: เหมาะกับกลุ่มที่ต้องการฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: วิตามินซีจำเป็นต่อกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึง ยืดหยุ่น
• ต้านอนุมูลอิสระ: ปกป้องผิวจากมลภาวะ แสงแดด และการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
Ascorbic Acid (L-AA) รูปแบบบริสุทธิ์ ออกฤทธิ์เร็ว เป็นวิตามินซีที่ไม่เสถียรต่อแสงและอากาศ
Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) เสถียรสูง เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แต่ดูดซึมช้ากว่า L-AA
Ethyl Ascorbic Acid เสถียรสูง ซึมเร็ว ไม่ระคายเคือง และเหมาะกับผิวทุกประเภท
________________________________________
เมื่อวิถีชีวิตเร่งรีบทำให้การรับประทานผักผลไม้ไม่เพียงพอ อาหารเสริมวิตามินซี จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนรักสุขภาพ เพราะสะดวกและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
• เสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดและการติดเชื้อ
• ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังเจ็บป่วยหรือออกกำลังกายหนัก
• ลดการอักเสบ และเสริมความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด
• ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยจากภายใน
เม็ดเคี้ยว / แคปซูล สะดวก หาซื้อง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ผงชงดื่ม ดูดซึมเร็ว เหมาะกับผู้ไม่ชอบกลืนเม็ด คนที่ออกกำลังกายประจำ หรือนักเรียน
Liposomal Vitamin C ดูดซึมสูงสุด ซึมเข้าร่างกายได้ดี เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาระบบย่อย
ควรทานวิตามินซีหลังอาหาร และควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยการดูดซึมและขับออกทางปัสสาวะหากเกินความจำเป็น
สนใจสร้างแบรนด์อาหารเสริมผสมวิตามินซี ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่ ปลอดภัย ได้ผลจริง และผลิตโดยโรงงานมาตรฐาน
สามารถติดต่อ Premacare ได้เลยที่
โทร 0808-108-109 หรือ
LINE @premacare (https://bit.ly/AddLinePremaCare)
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (Thailand)
บทความ: ตารางแสดงปริมาณวิตามินซีในผักและผลไม้ไทย
URL: https://multimedia.anamai.moph.go.th
2. มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสาธารณสุขศาสตร์
บทความ: ฐานข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการอาหารไทย (INMU-CalNutri)
URL: http://www.inmu.mahidol.ac.th
3. U.S. Department of Agriculture (USDA) - FoodData Central
บทความ: Nutrient Database on Vitamin C Content
URL: https://fdc.nal.usda.gov
รับรองคุณภาพตามมาตรฐานโรงงาน
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
สถานที่ตั้ง ส่วนโรงงาน
55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
สถานที่ตั้ง ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า
111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
เบอร์โทร ออฟฟิศ
02-886-3956 ถึง 57 กด 0เบอร์โทร ลูกค้าสัมพันธ์
0808-108-109วันทำการ
จันทร์ - เสาร์
เวลาทำการ
08.30 - 17.30
ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE
เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์