อยากผิวสวยด้วยเซรั่มวิตามินซีต้องรู้! วิตามินซีในสกินแคร์มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับเรา?

วิตามินซีถือเป็นส่วนผสมที่ทรงพลังและได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ครีม เซรั่ม เอสเซนต์ หรือมาส์กบำรุงผิว มักมีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบสำคัญและแทบทุกแบรนด์จะต้องสินค้าเพื่อผิวกระจ่างใส โดยมีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบสำคัญแน่ๆ แต่วิตามินซีก็มีหลากหลายรูปแบบ บางแบรนด์ผลิตครีม ผลิตเซรั่มออกมาก็เคลมว่าใส่วิตามินซีมา 3 ชนิดบ้าง 4 ชนิดบ้าง เรามาดูกันค่ะว่า วิตามินซีแต่ะชนิดที่ว่านี้มีอะไรกันบ้าง และวิตามินซีแต่ละแบบมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้วคุณสมบัติที่เราคาดหวังจะได้จากตัววิตามินซี โดยการใช้สกินแคร์ เพื่อประโยชน์ต่อผิวพรรณมากกว่าการกินโดยเราคาดหวังผลลัพธ์ได้อยู่ 3 กลไก คือ

1. เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากแสงยูวี มลภาวะ หรือเรียกกันง่ายๆว่าต้านแก่
2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวเด้งอิ่มฟู
3. ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน ปรับผิวดูกระจ่างใสไม่โทรม

ซึ่งส่วนผสมจากวิตามินซี ที่นำไปทำครีม หรือทำเซรั่มวิตามินซี สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม นั่นก็คือ กลุ่ม Active หรือ Pure Vitamin C และกลุ่มอนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives)

1. Active form หรือ Pure Vitamin C นั่นก็คือ L - Ascorbic acid เป็นวิตามินซีที่สามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีเมื่อทาลงบนผิวซึมเข้าผิวได้เลย เป็นวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด สามารถหวังผลได้ครบทั้ง 3 คุณสมบัติ ก็คือช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี ลดรอยต่างๆ ปรับผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่เป็นวิตามินซีที่มีความเป็นกรดสูง ยิ่งความเข้มข้นสูงยิ่งก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย อาจคันยุบยิบ แสบ แดงเมื่อใช้  และยังขึ้นชื่อเรื่องความไม่คงตัว เพียงแค่เจอ น้ำ อากาศ หรือแสงแดดก็เสื่อมแล้ว สังเกตได้จากการเปลี่ยนสีของเนื้อสกินแคร์ การเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล เป็นต้น จึงทำให้มักมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความทึบแสง เช่น ขวดสีชา เพราะต้องหลีกเลี่ยงจากการโดนแสงแดดนั่นเอง จึงทำให้นักคิดค้นหรือพัฒนาสูตรทำครีมให้ต้องปวดหัวกับปัญหาเหล่านี้ เพราะน้องควบคุมยากมาก เสื่อมง่าย อยู่ได้ไม่นาน ทำให้เกิดอนุพันธ์วิตามินซีขึ้น คือวิตามินซีที่พัฒนามาจากตัว Ascorbic acid เพื่อให้มีความเสถียรมากขึ้น กักเก็บวิตามินซีได้นานขึ้น อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า และง่ายต่อการนำไปทำครีม ทำเซรั่มมากขึ้นค่ะ เพราะฉะนั้นแบรนด์ที่ทำครีมหรือทำเซรั่มวิตามินซีจาก Ascorbic acid ออกมาจึงมักมีราคาสูง ด้วยเพราะต้องใช้เวลา ใช้ทรัพยากรในการวิจัย พัฒนาสูตรครีม สูตรเซรั่ม ให้น้องเสถียร และออกฤทธิ์ได้ครบ เห็นผลได้ทั้ง 3 คุณสมบัติที่กล่าวมา ไม่เสื่อมง่ายนั่นเองค่ะ

ปริมาณที่แนะนำในการเลือกใช้: 5 – 20% สำหรับผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ให้เริ่มใช้ที่ปริมาณ 5- 10 % ก่อน แล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้นไปเรื่อยๆได้

2. อนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives) ดัดแปลงมาจาก Ascorbic acid เพราะตัว Ascorbic acid ทำให้เสถียรยาก ผู้ผลิตครีม คิดค้นสูตรทำครีม จึงนำไปปรับให้เสถียรมากขึ้นนั่นเอง แต่อนุพันธ์วิตามินซีเมื่อทาที่ผิวแล้วจะออกฤทธิ์ไม่ได้ทันทีเหมือน Ascorbic acid เพราะต้องแปลงตัวเองเป็น Ascorbic acid ให้ได้ก่อน จึงจะสามารถเห็นผลได้  ซึ่งก็ยังเห็นผลได้ไม่ครบทั้ง 3 คุณสมบัติหรือยังไม่มีตัวไหนเทียบได้กับตัว Ascorbic acid เลย โดยหลักๆ ขอยกมา 6 ตัวนะคะ

• Ascorbyl Palmitate (AP) 
  ละลายได้ดีในน้ำมัน ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่ารูปแบบอื่น เนื่องจากชั้นผิวของเราเต็มไปด้วยชั้นไขมันการที่สามารถละลายได้ในน้ำมันจึงซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย แต่เปลี่ยนรูปไปเป็น Ascorbic acid ได้ไม่ดีนัก ดังนั้นเมื่อนำไปทำครีมหรือทำเซรั่มต้องใส่ปริมาณวิตามินซีเปอร์เซ็นต์สูงๆ เพื่อให้เห็นผลได้ดี มีความเสถียรสูงกว่า Ascorbic acid เนื่องจากไม่ละลายในน้ำทำให้เกิดการ oxidation ต่ำกว่า ออกฤทธิ์ได้นานกว่า แต่ยังคงตัวได้น้อยกว่าอนุพันธ์วิตามินซีชนิดอื่น

คุณสมบัติที่คาดหวังได้ : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ตัวช่วยบูสคอลลาเจนในชั้นผิว

เหมาะกับ : ผิวมัน มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย

สูตรสร้างแบรนด์แนะนำ: CVC 01 P.C. VITA C SERUM II

• Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) 
  หรือเรียกรวมกันกับตัว SAP ว่า L-Ascorbyl 2-phosphate เพราะมีการเติมฟอสเฟสเพื่อให้เกิดความเสถียรมากขึ้น อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น จึงเป็นวิตามินซีฟอร์มที่มีความเสถียรสูงมาก เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ไวต่อกรด โดยที่ยังคงนำเอาทุกคุณสมบัติของ Ascorbic acid ไว้อยู่ ซึ่งวิตามินซีฟอร์ม MAP นี้ จะละลายในน้ำ แต่เปลี่ยนฟอร์มเป็น Ascorbic acid และซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก จึงต้องถูกนำไปรวมกับสารต้านอนุมูลอิสระและส่วนผสมเพื่อผิวกระจ่างใสเพื่อบูสผิวให้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณสมบัติที่คาดหวังได้ : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับผิวดูขาวกระจ่างใส และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวได้ดี

เหมาะกับ : ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย

• Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) 

ละลายในน้ำเหมือน MAP แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า ซึมเข้าสู่ผิวได้ไม่ค่อยดีเมื่อเปรียบเทียบกับ Ascorbic acid เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรสูงอ่อนโยนกว่าอนุพันธ์วิตามินซีชนิดอื่น ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ดี เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรักษาและป้องกันสิว ช่วยต่อต้านการอักเสบของสิวช่วยกำจัดแบคทีเรีย และช่วยลดสิวผดได้

คุณสมบัติที่คาดหวังได้ : ช่วยบูสคอลลาเจน และช่วยปรับผิวขาวดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิวต่างๆ แถมยังช่วยเรื่องปัญหาสิวได้ด้วย

เหมาะกับ : ผิวบอบบาง ผิวมัน ผิวเป็นสิว มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย

สูตรสร้างแบรนด์แนะนำ: CVC 03 P.C. VC SERUM / CVC 01 P.C. VITA C SERUM II

• Ascorbyl Tetraisopalmitate หรือ VC-IP

ละลายในน้ำมันได้ดี อ่อนโยน และมีความเสถียรสูง สามารถซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็วและดีมาก เนื่องจากละลายได้ในไขมันจึงมีประสิทธิภาพซึมลึกได้ดีกว่าอนุพันธ์วิตามินซีฟอร์มที่ละลายในน้ำ ซึ่ง VC-IP เป็นวิตามินซีฟอร์มที่สามารถเปลี่ยนฟอร์มเป็น Ascorbic acid ได้ดี จึงสามารถหวังผลได้ครบทั้ง 3 ประโยชน์ต่อผิว ทั้งต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการผลิตเม็ดสี ช่วยปรับผิวกระจ่างใส แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวตามธรรมชาติด้วย

คุณสมบัติที่คาดหวังได้ : ประโยชน์ครบทั้ง 3 คุณสมบัติที่หวังผลต่อผิวได้

เหมาะกับ : ผู้มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีปัญหาเรื่องรอยสิว จุดด่างดำ ผิวบอบบาง แพ้ง่ายใช้ได้

สูตรสร้างแบรนด์แนะนำ: CVC 04 P.C. VIT C CREAM

• Ethyl Ascorbic Acid (EAA)

หรือที่รู้จักในชื่อ 3-O-ethyl-L-ascorbic acid เป็นวิตามินซีที่มีความเสถียรสูงมาก ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี มีงานวิจัยชี้ว่าสามารถเปลี่ยนเป็นฟอร์ม Ascorbic acid บนผิวได้ถึง 86% เมื่อเทียบกับอนุพันธ์วิตามินซีชนิดอื่นๆที่อยู่ราวๆ 50-60% ซึ่งเห็นผลลัพธ์ได้ดีในด้านความกระจ่างใส ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และมีการศึกษาว่าปริมาณเพียงแค่ 2% ก็สามารถปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้นได้ แถมขึ้นชื่อว่าเป็นวิตามินซีฟอร์มที่ใกล้เคียงกับ Ascorbic acid มากที่สุด

คุณสมบัติที่คาดหวังได้ : ประโยชน์ครบทั้ง 3 คุณสมบัติที่หวังผลต่อผิวได้ โดดเด่นเรื่องผิวกระจ่างใส

เหมาะกับ : ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ

สูตรสร้างแบรนด์แนะนำ: CSL 44 P.C. VITAMIN C WHITENING LOTION

• Ascorbyl Glucoside (AG)

ละลายในน้ำ มีความเสถียรกว่า Ascorbic acid ระคายเคืองผิวน้อย ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ออกฤทธิ์บนผิวได้นาน สามารถเปลี่ยนฟอร์มไปเป็น Ascorbic acid ได้ ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติครบ หวังผลได้ทั้ง 3 อย่าง คือ ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ มีการศึกษาพบว่าสามารถช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้

คุณสมบัติที่คาดหวังได้ : ประโยชน์ครบทั้ง 3 คุณสมบัติที่หวังผลต่อผิวได้

เหมาะกับ : ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ อยากให้ผิวดูกระจ่างใส

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 6 อนุพันธ์วิตามินซีที่นำมาฝากในวันนี้ ซึ่งเราอาจจะเห็นบางแบรนด์ก็นำเอาอนุพันธ์วิตามินซีใส่ไว้ให้หลายตัวเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของครีม ช่วยเสริมฤทธิ์ของวิตามินซีให้มากขึ้น หรือบางแบรนด์อาจจะเพิ่มสาร antioxidant อื่นๆในสูตรทำครีม เพื่อช่วยเสริมฤทธิ์กัน ช่วยให้วิตามินซีเสถียรมากขึ้นได้ด้วยค่ะ 

สูตรสร้างแบรนด์แนะนำ: CVC 12 P.C. CONCENTRATED MIXED C SERUM ที่ผสานส่วนผสมจากวิตามินซีถึง 4 ชนิด คือ Ascorbic Acid, Sodium Ascorbyl Phosphate, Ascorbyl Glucoside และ Ascorbyl Tetraisopalmitate

หากท่านใดสนใจสร้างแบรนด์ครีมวิตามินซี หรือทำเซรั่มวิตามินซี สามารถติดต่อสอบถามเราได้ทุกช่องทางเลยนะคะ เราคือโรงงานรับผลิตครีม รับผลิตเครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม ตามมาตรฐานสากลที่ดำเนินกิจการมากกว่า 18 ปี ได้รับรางวัลและความไว้วางใจจากเจ้าของธุรกิจมากมายมาอย่างยาวนาน สนใจสั่งผลิตครีม สร้างแบรนด์ครีม เรามีสูตรมาตรฐานให้เลือกหลากหลาย หรือจะพัฒนาสูตรเองให้ตรงความต้องการก็ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ

Line: @premacare 

Tel: 080-810-8109

อ้างอิง:

https://www.geekyposh.com/7-types-of-vitamin-c/

https://incidecoder.com/ingredients/sodium-ascorbyl-phosphate

https://incidecoder.com/ingredients/ethyl-ascorbic-acid

https://www.choicechecker.com/blog/39