ในยุคที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณและความงาม สินค้าที่มีส่วนผสมของ Retinol ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการเติบโตสูง ด้วยประโยชน์ที่ชัดเจนและการวิจัยที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพ การสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่มี Retinol เป็นส่วนประกอบสามารถเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดของธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบันพบว่าเทรนด์ตลาดเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Retinol ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ influencer ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ ต่างให้การยอมรับในด้านประสิทธิภาพ นอกจากนี้เจ้าของแบรนด์ที่เป็นแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกร ต่างก็ออกมายืนยันถึงประสิทธิภาพของ Retinol ในด้านการดูแลผิวพรรณ จึงส่งผลทำให้แนวโน้มการตลาดของเครื่องสำอางผสม Retinol เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
ตลาดทั่วโลก:
 
| 
			 ปี  | 
			
			 มูลค่าตลาด (พันล้าน USD)  | 
			
			 อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR)  | 
		
| 
			 2010  | 
			
			 1.5  | 
			
			 3.5%  | 
		
| 
			 2015  | 
			
			 2.3  | 
			
			 4.1%  | 
		
| 
			 2020  | 
			
			 3.8  | 
			
			 5.0%  | 
		
| 
			 2023  | 
			
			 5.0  | 
			
			 6.2%  | 
		
| 
			 คาดการณ์ 2030  | 
			
			 8.5  | 
			
			 7.5%  | 
		
ตลาดในประเทศไทย:
| 
			 ปี  | 
			
			 มูลค่าตลาด (พันล้านบาท)  | 
			
			 อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR)  | 
		
| 
			 2010  | 
			
			 0.5  | 
			
			 2.8%  | 
		
| 
			 2015  | 
			
			 0.8  | 
			
			 3.3%  | 
		
| 
			 2020  | 
			
			 1.4  | 
			
			 4.5%  | 
		
| 
			 2023  | 
			
			 2.0  | 
			
			 5.8%  | 
		
| 
			 คาดการณ์ 2030  | 
			
			 3.5  | 
			
			 6.7%  | 
		
Retinol ในฐานะ วัตถุดิบตัวเด็ดของเครื่องสำอางที่ช่วยดูแลผิวพรรณได้อย่างหลากหลาย ทำให้มีการพัฒนาคุณสมบัติของ Retinol อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจาก Retinol เป็นสารที่มีสี ไวต่อสภาวะแวดล้อม และ มีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองได้สูง การพัฒนาจึงมุ่งเน้นด้านความคงตัว และ การลดโอกาสการเกิดอาการระคายเคืองจากการใช้นั่นเอง
•    ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเส้นริ้วบนผิว
•    กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
•    ช่วยลดปัญหาสิวและจุดด่างดำ
•    เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว
•    2010-2015: เริ่มได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพผิว
•    2016-2020: การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและลดการระคายเคือง
•    2021-ปัจจุบัน: การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ไมโครแคปซูล มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคงทน
ในประเทศ Retinol เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่เจ้าของแบรนด์ และ ผู้บริโภค รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี โดยผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นทราบถึงทั้งผลดีจากการใช้ และ ผลเสียที่เกิดจากการใช้ Retinol เป็นอย่างดี และเนื่องจากประสิทธิภาพที่ดีจากการใช้มากกว่าผลเสียที่เกิดขึ้น มูลค่าตลาดของเครื่องสำอางผสม Retinol จึงเติบโตอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
•    การตระหนักถึงประโยชน์ของ Retinol ในกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
•    ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและส่วนผสมจากธรรมชาติ
•    การเติบโตของตลาดสุขภาพและความงามที่เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์
•    การเปิดกว้างสำหรับนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
•    การสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาธุรกิจสุขภาพและความงาม
•    ความสนใจของผู้บริโภคในเรื่องการดูแลตัวเองและความงามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ในบทความนี้ได้รวบรวมตัวอย่างเครื่องสำอางผสม Retinol ที่มีเสียงตอบรับที่ดี และ มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นได้ว่า เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Retinol นั้นมีภาพลักษณ์ด้านราคาที่ค่อนข้างพรีเมียม โดยจะสังเกตได้ว่าราคาของสินค้าในตลาด mass market นั้นราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ขึ้นไป

Retinol สามารถนำไปเป้นส่วนผสมของเครื่องสำอางได้หลากหลาย ในบทความนี้ขอแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ Retinol เป็นส่วนประกอบได้ พร้อมทั้งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่แนะนำได้ดังนี้
•    ครีมบำรุงผิวหน้า: สำหรับลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ
•    เซรั่ม: สำหรับกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และเพิ่มความชุ่มชื้น
•    มาส์กหน้า: สำหรับการบำรุงผิวหน้าอย่างเข้มข้น
•    น้ำตบ: สำหรับเตรียมผิวก่อนการบำรุง
•    ครีมกันแดด: เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และบำรุงผิวในเวลาเดียวกัน
เนื่องด้วยสินค้าในท้องตลาดมีมากมาย ดังนั้นในบทความนี้จึงขอแนะนำขนาดสินค้า และ ราคาคร่าวๆ ที่รวบรวมมาจากท้องตลาดให้กับมือใหม่ที่ต้องการจะสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Retinol ขายในปัจจุบัน รวมไปถึงแนวทางการทำโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ให้กับทุกท่าน ดังนี้
•    ผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก (15-30 ml): ราคาเริ่มต้นที่ 300-600 บาท เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ทดลองใช้
•    ผลิตภัณฑ์ขนาดกลาง (30-50 ml): ราคาเริ่มต้นที่ 700-1,200 บาท เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ประจำ
•    ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ (50-100 ml): ราคาเริ่มต้นที่ 1,300-2,000 บาท เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ระยะยาว
•    ออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์, โซเชียลมีเดีย, และแพลตฟอร์ม e-commerce เช่น Lazada, Shopee
•    ออฟไลน์: ร้านขายยา, ห้างสรรพสินค้า, และคลินิกความงาม
•    โซเชียลมีเดีย: Facebook, Instagram, TikTok - ใช้การทำคอนเทนต์ที่เน้นการให้ความรู้และรีวิวผลิตภัณฑ์
•    บล็อกและเว็บไซต์: การทำ SEO เพื่อเพิ่มการเข้าถึงจากการค้นหา
•    อินฟลูเอนเซอร์: การทำรีวิวและแนะนำผลิตภัณฑ์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามในกลุ่มเป้าหมาย
•    โฆษณาออนไลน์: Google Ads, Facebook Ads - เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
สรุป
Retinol เป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพสูงในการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่โดดเด่นในตลาด ด้วยการเติบโตของตลาดทั่วโลกและในประเทศไทย เจ้าของแบรนด์ควรรีบคว้าโอกาสนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพและการเสนอโปรโมชั่นที่คุ้มค่า จะช่วยสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์และเพิ่มการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
ข้อมูลอ้างอิง:
1.    Global Market Insights, Inc. (2023). "Retinol Market Size By Product, By Application, Industry Analysis Report, Regional Outlook, Growth Potential, Price Trends, Competitive Market Share & Forecast, 2020 – 2030."
2.    Statista. (2023). "Cosmetic Market Overview."
3.    Euromonitor International. (2023). "Beauty and Personal Care in Thailand."
4.    McKinsey & Company. (2023). "The State of Fashion: Beauty & Personal Care."
5.    Research and Markets. (2023). "Global Retinol Market Analysis and Forecasts to 2030."
 
รับรองคุณภาพตามมาตรฐานโรงงาน
แลปผลิต ครีม อาหารเสริม
สถานที่ตั้ง ส่วนโรงงาน
55/5 หมู่ 7 ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
สถานที่ตั้ง ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า
111/888 หมู่ 5 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
เบอร์โทร ออฟฟิศ
02-886-3956 ถึง 57 กด 0เบอร์โทร ลูกค้าสัมพันธ์
0808-108-109วันทำการ
จันทร์ - เสาร์
เวลาทำการ
08.30 - 17.30
ช่องทาง SOCIAL MEDIA สำหรับ PREMA CARE
เพื่อรับคำปรึกษาสร้างแบรนด์ทำแบรนด์