เลือกครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะสมกับกิจกรรมและผิวของคุณ: เคล็ดลับที่คุณควรรู้

การใช้ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวหน้าและผิวกาย เนื่องจากสามารถป้องกันรังสี UV จากแสงแดดที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ฝ้า กระ ริ้วรอย และการเกิดมะเร็งผิวหนัง การเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพผิวและกิจกรรมในแต่ละวันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวได้อย่างเต็มที่ เรามาดูกันว่าควรพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกใช้ครีมกันแดดให้ตรงกับความต้องการของคุณค่ะ

ทำไมการใช้ครีมกันแดดถึงสำคัญ? 

การใช้ครีมกันแดดจำเป็นกับเราขนาดนั้นจริงๆรึเปล่า เรามาดูกันค่ะ

ผลกระทบของรังสี UV ต่อผิว

รังสี UV แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ รังสี UVA และ UVB ซึ่งสามารถทำลายเซลล์ผิวหนังได้ รังสี UVA สามารถเจาะลึกถึงชั้นผิวหนังและเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยและผิวคล้ำเสีย ขณะที่รังสี UVB ทำให้ผิวเกิดอาการไหม้แดด การใช้ครีมกันแดดที่มี SPF และ PA ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการทำลายของรังสีทั้งสองชนิดนี้

การใช้ครีมกันแดดเป็นการลงทุนระยะยาวในการดูแลผิว

การปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนังและปัญหาผิวอื่นๆ การเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับกิจกรรมและสภาพผิวจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องผิวแล้ว ยังช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ในระยะยาว

คำแนะนำในการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับกิจกรรม

แต่ละมื้อแต่ละเดย์ แต่ละคนย่อมมีกิจกรรมที่ต้องเผชิญหน้ากับแดดแตกต่างกันใช่ไหมคะ เรามีคำแนะนำในการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรมของคุณดังนี้ค่ะ

การเลือกครีมกันแดดสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

หากคุณมีกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน เช่น การเดินทางท่องเที่ยว เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือทำกิจกรรมที่ต้องโดนแดดตรงๆ ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ หรือสูงกว่า เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำ (Water-Resistant) เพื่อไม่ให้หลุดลอกระหว่างทำกิจกรรม

การเลือกครีมกันแดดสำหรับการออกกำลังกาย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวสูง ควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำและเหงื่อ (Sweat-Resistant) เพื่อให้ครีมกันแดดยังคงประสิทธิภาพแม้มีเหงื่อออก และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงหากมีกิจกรรมที่ต้องโดนแดดเป็นเวลานาน

การเลือกครีมกันแดดสำหรับกิจกรรมในร่ม

หากคุณทำงานหรือใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในร่ม ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 15-30 และมีค่า PA+ หรือ PA++ เพื่อป้องกันรังสี UVA ที่สามารถผ่านหน้าต่างและเข้ามาในอาคารได้ แม้ว่าอาจจะไม่ต้องเผชิญแสงแดดโดยตรง แต่ก็ยังมีรังสีที่สามารถทำร้ายผิวได้เช่นกัน

การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิว

นอกจากกิจกรรมแล้ว สภาพผิวของแต่ละบุคคล ก็มีส่วนสำคัญในการเลือกครีมกันแดดเช่นกันค่ะ

ครีมกันแดดสำหรับผิวมัน

ผู้ที่มีผิวมันควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อสัมผัสแบบเจลหรือโลชั่นที่บางเบาและไม่อุดตันรูขุมขน เช่น สูตร "Oil-Free" หรือ "Non-Comedogenic" เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิวและความมันส่วนเกินบนใบหน้า ครีมกันแดดสูตรน้ำ (Water-Based) มักจะเหมาะสมสำหรับผิวมันเพราะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วและไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะ

ครีมกันแดดสำหรับผิวแห้ง

ผู้ที่มีผิวแห้งควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อครีมที่เข้มข้นและมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งแตก ครีมกันแดดสูตรครีมที่มีสารบำรุง เช่น กรดไฮยาลูโรนิกและวิตามินอี จะช่วยให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน

ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย

ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกครีมกันแดดสูตรที่ปราศจากน้ำหอม พาราเบน และสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เลือกใช้ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen ที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ซึ่งมักจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า

การอ่านค่า SPF และ PA ในครีมกันแดด

ครีมกันแดดแต่ละยี่ห้อมักมีตัวเลขค่า SPF และค่า PA กำกับไว้ เราลองมาดูกันค่ะว่ามันแปลความหมายอย่างไร

ค่า SPF (Sun Protection Factor)

ค่า SPF คือค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB โดยค่า SPF ที่สูงขึ้นจะช่วยป้องกันรังสี UVB ได้มากขึ้น เช่น SPF 30 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 97% ในขณะที่ SPF 50 สามารถป้องกันได้ประมาณ 98% อย่างไรก็ตาม ควรเลือกค่า SPF ที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เพราะค่า SPF สูงมากอาจทำให้ผิวรู้สึกเหนอะหนะได้

ค่า PA (Protection Grade of UVA)

ค่า PA คือค่าที่บ่งบอกถึงการป้องกันรังสี UVA โดยมีระดับตั้งแต่ PA+ ถึง PA++++ โดยค่า PA ที่สูงขึ้นจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ได้มากขึ้น ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA ที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่ต้องเผชิญแสงแดด

วิธีการใช้ครีมกันแดดให้ได้ผลสูงสุด

การทาครีมกันแดดให้ได้ผลสูงสุดควรทาก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที และควรทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ โดยทาครีมกันแดดลงบนผิวหน้าและลำตัวอย่างทั่วถึง ไม่ลืมที่จะทาบริเวณหู คอ และมือ ซึ่งเป็นบริเวณที่มักถูกลืม นอกจากนี้ ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน

บทสรุป: การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการดูแลผิว

การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับกิจกรรมและสภาพผิวเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้ผิวของคุณได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจถึงค่า SPF และ PA รวมถึงการเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิว จะช่วยให้คุณสามารถดูแลผิวจากการถูกทำร้ายจากรังสี UV ได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ

สนใจเริ่มเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางคุณภาพไหมคะ

หากคุณกำลังมองหาโอกาสธุรกิจใหม่ ด้วยการเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพดีที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย ลองพิจารณาผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละกลุ่ม และช่วยบำรุงผิวให้สวยสุขภาพดีอย่างเห็นผล สนใจสั่งผลิตเครื่องสำอาง มาร์คหน้า ครีม เซรั่ม หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เหมาะสมตามแต่ละกลุ่มผู้ใช้ ผู้บริโภคถูกใจ ปลอดภัยจากสารพิษ ดูแลเหมือนญาติมิตร ใกล้ชิดตั้งแต่ธุรกิจการสร้างแบรนด์ตัวเองไปจนถึงจัดจำหน่าย ได้มาตรฐาน ด้วยโรงงานทันสมัย ได้รางวัลระดับประเทศและระดับสากล สนใจติดต่อเราสิคะ บริษัท พรีม่าแคร์ จำกัด 0808-108-109