Bakuchiol and Retinol

เปรียบเทียบ Bakuchiol และ Retinol: การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างไร

ทำไมคุณควรใช้ Bakuchiol หรือ Retinol? ค้นพบความแตกต่างและข้อแนะนำในการดูแลผิวของคุณในบทความนี้!

สวัสดีค่ะ สาวๆที่รักความสวยงาม ! วันนี้เราจะแนะนำเกี่ยวกับสารสกัดที่ได้รับความนิยมในการดูแลผิวหน้า นั่นคือ Bakuchiol และ Retinol โดยเราจะทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติและประโยชน์ของทั้งสอง ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการของคุณได้อย่างมีเหตุผลและมั่นใจ

 

Bakuchiol: สรรพคุณและประโยชน์

Bakuchiol เป็นสารประกอบธรรมชาติที่พบในเมล็ดและใบของพืช Babchi (Psoralea corylifolia) ซึ่งใช้ในการแพทย์อายุรเวทแบบดั้งเดิมเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ มีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่น่าสนใจ คือมันมีคุณสมบัติที่คล้ายกับ Retinol แต่มีความอ่อนโยนกว่า Retinol อย่างมาก ด้วย Bakuchiol คุณจะได้รับประโยชน์เดียวกันที่ไม่ทำให้ผิวแพ้ง่ายหรือแพ้แดง Bakuchiol มักถูกเรียกว่า "เรตินอลจากธรรมชาติ" (Retinal like) เชื่อกันว่าช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ปรับปรุงสภาพผิว และลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ แต่ Bakuchiol อ่อนโยนต่อผิวมากกว่าเมื่อเทียบกับเรตินอล และอาจเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

อ่านเพิ่มเติม : Bakuchiol: เรตินอลจากธรรมชาติที่คุณไม่ควรพลาด

 

Retinol: สารสกัดที่นิยมในการดูแลผิว

เรตินอลเป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถปรับปรุงผิวได้ อย่างมีนัยสำคัญ มักถูกมองว่าเป็นมาตรฐานในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่อต้านวัย Retinol หรือวิตามิน A1 เป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมในการดูแลผิวหน้ามากเนื่องจากความสามารถในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เรตินอลทำงานโดยการจับกับตัวรับเรตินอยด์ในผิวหนัง ซึ่งกระตุ้นการหมุนเวียนของเซลล์ เพิ่มการผลิตคอลลาเจน และช่วยทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน ขึ้นชื่อในด้านความสามารถในการจัดการกับปัญหาผิวต่างๆ รวมถึงริ้วรอย ริ้วรอย สิว และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ที่ช่วยให้ผิวหน้าดูแข็งแร ดูขาวขึ้น และลดการเป็นสิวอีกด้วย แต่ก็มักมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย เรตินอลอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง รอยแดง ลอก และแห้งกร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มขั้นตอนการดูแลผิวเป็นครั้งแรก สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นที่ต่ำลง และค่อยๆ เพิ่มความแรงให้สูงขึ้นเพื่อลดผลข้างเคียงเหล่านี้ แม้ว่าเรตินอลจะมีประสิทธิภาพ แต่เรตินอลก็อาจแรงเกินไปสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรทำการทดสอบแพทช์ และใช้เรตินอลอย่างช้าๆ เพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์

อ่านเพิ่มเติม : เรตินอล(Retinol) คืออะไร? ดียังไงกับผิว?

 

การเปรียบเทียบ Bakuchiol และ Retinol

Bakuchiol และ Retinol เป็นสารสกัดที่ใช้ในการดูแลผิวหน้าและมีความคล้ายคลึงกันในบางประการ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ:

ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Bakuchiol และ Retinol

ความเหมือน :

  • ทั้งสองสารสกัดมีสมบัติทางเภสัชวิทยาที่ช่วยในการลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • ทั้ง Bakuchiol และ Retinol เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอันตรายจากสารอนุมูลอิสระในอากาศและแสงแดด
  • สองสารสกัดนี้มีความสามารถในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และขาวขึ้น
  • Bakuchiol และ Retinol มีความสามารถในการรักษาสิว โดยลดการอักเสบและช่วยลดการสร้างสิวใหม่
  • การใช้ Bakuchiol และ Retinol สามารถช่วยให้ผิวดูขาวขึ้นได้ แต่มีผลกระทบต่อผิวและความเป็นผิวขาวที่แตกต่างกัน:

ความแตกต่าง:

  • Retinol เป็นสารสกัดจากวิตามิน A ในขณะที่ Bakuchiol เป็นสารสกัดจากพืช Babchi
  • Retinol มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยได้เร็วและมากกว่า Bakuchiol แต่มีความเสี่ยงในการทำให้ผิวแห้งหรือแพ้ง่ายในบางกรณี
  • Bakuchiol เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือ ผิวที่ไวต่อการระคายเคือง มากกว่า เนื่องจากมีความอ่อนโยนกว่า Retinol
  • Bakuchiol: มีความอ่อนโยนกว่า Retinol และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ช่วยลดการระคายเคืองและผิวแห้ง

 

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกใช้ Bakuchiol หรือ Retinol

ก่อนเลือกใช้ Bakuchiol หรือ Retinol ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

1. ประเภทของผิว:

ผิวแต่ละคนมีความไวต่อสารสกัดต่าง ๆ ควรทดลองใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ บนผิวก่อนเพื่อตรวจสอบว่ามีผลข้างเคียงหรือไม่

2. สภาพผิวปัจจุบัน:

ผิวที่แสดงอาการแห้งหรือแพ้ง่ายมักจะต้องระมัดระวังในการใช้ Retinol

3. ความเหมาะสมในการผสมใช้:

บางครั้ง Bakuchiol และ Retinol สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ควรใช้ในขั้นตอนแยกกัน เช่น ใช้ Retinol ในกลางคืนและ Bakuchiol ในกลางวัน แต่โดยทั่วไป Retinol: มักแนะนำให้ใช้กลางคืนเนื่องจากมีความอ่อนโยนกว่ากลางวัน

  • Bakuchiol: ไม่มีความจำเป็นต้องหยุดใช้เมื่อต้องการตัดสินใจใช้ Retinol

  • Retinol: ในบางกรณีอาจต้องหยุดใช้ Bakuchiol เมื่อต้องการใช้ Retinol

4. วัตถุประสงค์การใช้:

ความต้องการในการลดริ้วรอย หรือ ใช้เพื่อดูแลผิวที่เป็นสิว เป็นต้น  เช่น

Retinol: มีประสิทธิภาพมากในการลดริ้วรอยและเสริมปราการผิว แต่มีความเสี่ยงในการทำให้ผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือมีการระคายเคือง

การใช้รักษาสิว

Bakuchiol: เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบางช่วยลดการระคายเคืองและป้องกันการอักเสบ ที่มีความอ่อนโยนกว่า Retinol

Retinol: มีประสิทธิภาพมากในการลดสิวและริ้วรอยจากสิว แต่มีความเสี่ยงในการทำให้ผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือมีการระคายเคือง

 

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Bakuchiol หรือ Retinol

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Bakuchiol หรือ Retinol ควรทำตามขั้นตอนแนะนำของผู้ผลิตหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลผิว ซึ่งรวมถึงปริมาณการใช้และความถี่ของการใช้ โดยทั่วไปแล้วควรใช้ Bakuchiol หรือ Retinol ในช่วงกลางคืน และต้องใช้ SPF ในระหว่างวัน

 

การเริ่มต้นใช้ Bakuchiol หรือ Retinol:

เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำ ใช้ทุก 2-3 วันต่อสัปดาห์และค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้น

 

การดูแลผิวขณะใช้ Bakuchiol หรือ Retinol:

การใช้สารสกัด เช่น Bakuchiol และ Retinol จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี SPF สูงเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และความเสียหายจากแสงแดด การใช้ สารกันแดด ช่วยลดความเสี่ยงในการทำให้ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย

 

ผลข้างเคียงในการใช้ Bakuchiol และ Retinol

การใช้ Bakuchiol และ Retinol อาจเกิดผลข้างเคียงได้ แต่มักจะแตกต่างกัน

ผลข้างเคียงของ Bakuchiol: 

มีผลข้างเคียงน้อย เช่น ความร้อน แสบหน้า หรือแห้งกร้าน แต่ควรหยุดใช้หากมีอาการแพ้แดงหรือระคายเคือง

ผลข้างเคียงของ Retinol:

ผิวแห้ง แห้งกร้าน ระคายเคือง หรืออาการแพ้แดง การที่ผิวมีความเป็นผิวขาวเพิ่มขึ้นเร็วขึ้นก็เป็นไปได้ หยุดใช้ผลิตภัณฑ์หากมีผิวแห้งหรือแพ้ง่ายและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลผิว

 

สรุป

Bakuchiol และ Retinol เป็นสารสกัดที่นิยมในการดูแลผิวหน้าเพื่อลดริ้วรอย ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว และลดการเกิดสิว ซึ่งทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันในบางประการ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ เราควรพิจารณาประสิทธิภาพของสารสกัดนี้ต่อผิวและความเหมาะสมกับสภาพผิวของเรา และการใช้ ครีมกันแดด ที่มีSPF สูงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อใช้สารสกัด ทั้ง2 ชนิด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และความเสียหายจากแสงแดด นอกจากนี้ การทดลองใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ บนผิวก่อนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ดี  ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์หากสงสัยว่าแพ้และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิว


โปรโมชั่นแนะนำ

บอกหมดเปลือก 10 step สร้างแบรนด์ครีมเครื่องสำอางเวชสำอาง

อัปเดต 10 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ครีม ทำแบรนด์ครีม ผลิตครีมแบรนด์ตัวเอง เครื่องสำอาง สกินแคร์ของตัวเอง โดยพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตได้มาตรฐาน...

8 วิธีกินรับประทานคอลลาเจนผงชงดื่ม กินยังไงตอนไหนให้ได้ผลสูงสุด ดีที่สุด

อยากกินคอลลาเจนผงชงดื่มให้ได้ผลดีที่สุด ต้องกินยังไง? พรีมา แคร์ มีคำตอบ! อธิบายแบบเข้าใจง่าย ครบทุกขั้นตอน กับ 8 วิธีกินคอลลาเจนผงชงดื่มให้ได้ผลสูงสุด...

เทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ สร้างแบรนด์ครีมอาหารเสริมให้ปัง

สร้างทำแบรนด์ครีม เวชสำอาง เครื่องสำอาง อาหารเสริม การตั้งชื่อแบรนด์สินค้าเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ รวบรวมเทคนิคตั้งชื่อแบรนด์ให้โดนใจ จดจำง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่...

10 ข้อที่ควรรู้ เรื่องอันตรายจากยาลดความอ้วน

อยากลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย? รู้ไว้ก่อนใช้ยาลดความอ้วน อันตรายกว่าที่คิด เพราะมีสารอันตรายในยาลดความอ้วน มีโทษมากมาย ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย...


ผลิตภัณฑ์แนะนำ

CUV 66 พี.ซี. ฟิสิคัล ซันสกรีน บรอดสเปรกตรัม เอสพีเอฟ 50+ พีเอ+++

ครีมกันแดดปราศจากสารกันแดดกลุ่มเคมี(Non-Chemical Sunscreen) สูตร paraben free ปราศจากน้ำหอม

CSL 38 พี.ซี. เจจู ฟลอเลส สกิน เซรั่ม

เจจู ซากุระ เซรั่ม ด้วยสารสกัดจากประเทศเกาหลี - บริษัทพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตครีม เจล เซรั่ม เครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม...

B-FMP 15 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วาย.โอ.เอ็น.

มิกซ์เบอร์รี ผงบุกสกัด สารสกัดจากแอปเปิ้ล ผงไซเลี่ยมฮัสก์ สารสกัดจากอะเซอโรลา เชอร์รี อินูลิน

ช่องทางติดต่อสร้างแบรนด์ทำแบรนด์กับ PREMA CARE ผ่านสื่อ Social Media

ติดตาม Fanpage Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดตาม Fanpage Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดตาม Fanpage Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดตาม TikTok Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

เข้ามาติดต่อ Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดการสร้างทำแบรนด์กับเรา

สถานที่ตั้ง

ส่วนโรงงาน

55/5 ม.7 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110

ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า

111/888 ม.5 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

อีเมล

info@premacare.co.th

โทร

0808-108-109, 02-886-3957