ผิวของคุณคือผิวแห้ง หรือ ผิวขาดน้ำ กันแน่!?

ปัญหาผิวแห้งและผิวขาดน้ำเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสภาพผิวคนไทย แม้จะเป็นปัญหาที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างอยู่ ดังนั้นเราจึงควรเข้าใจลักษณะของผิวและสาเหตุของทั้งสองปัญหานี้ให้ชัดเจนก่อน เพื่อที่จะหาวิธีการดูแลและบำรุงผิวได้อย่างเหมาะสม เพื่อเผยผิวสวย แข็งแรง และดูสุขภาพดี ไม่ระคายเคืองต่อสภาพแวดล้อมได้ง่าย

ผิวแห้งคืออะไร?

ผิวแห้ง (Dry skin) มักเป็นปัญหาผิวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด หมายถึง ผิวที่ขาดความมัน เนื่องจากการทำงานของต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวไม่ได้รับการหล่อลื่นและความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ทำให้ผิวแห้งตึง ไม่ชุ่มชื้นอาจถึงขึ้นผิวแห้งกร้าน และมีปัญหาการลอกและคันด้วย ทำให้เกิดโอกาสผิวบอบบาง ไวต่อสภาพแวดล้อมต่างๆได้ง่าย ระคายเคืองง่าย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลให้สภาพผิวแห้งดังนี้ 

สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง

• พันธุกรรม และปัจจัยทางกรรมพันธุ์ บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดผิวแห้งง่ายกว่าคนอื่นๆ
• อายุที่เพิ่มขึ้น เซลล์ผิวจะสร้างน้ำมันและความชุ่มชื้นได้น้อยลง
• สภาพอากาศ อากาศหนาวจัดหรืออากาศแห้งมีผลทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย
• การอาบน้ำร้อนบ่อย ๆ ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมแรงเกินไป ทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแห้งตึงได้

วิธีสังเกต เรามีปัญหาผิวแห้งมั้ยนะ?

• ผิวแห้งไม่ว่าสภาพอากาศใด
• คันตามผิวหนัง
• ผิวลอก แตก เป็นขุย
• รูขุมขนเล็ก

ผิวขาดน้ำคืออะไร?

ผิวขาดน้ำ (Dehydrated skin) หมายถึง ภาวะที่ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นหรือมีน้ำใต้ผิวน้อย ทำให้ผิวบางเวลาก็แห้งบางเวลาก็มัน อย่างเช่นหลังล้างหน้าผิวจะแห้ง ระหว่างวันกลับมาหน้ามัน เนื่องจากผิวหน้าผลิตน้ำมันมากกว่าปกติเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยผิวขาดน้ำมักเป็นภาวะชั่วคราวที่เกิดขึ้นได้ในทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม หากเราดูแลความชุ่มชื้นให้ผิวไม่เพียงพอ 

วิธีสังเกต เรามีปัญหาผิวขาดน้ำไหมนะ?

• บางเวลาผิวแห้ง บางเวลาผิวมัน
• มักมีปัญหาผิวหมองคล้ำไม่สดใส 
• ผิวไม่อิ่มฟู เห็นริ้วรอยชัดขึ้น 
• แต่งหน้าไม่ติดทน เครื่องสำอางหลุดง่าย แป้งเป็นคราบ 
• ผิวระคายเคืองง่าย

สาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำ

• การขาดการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง และดื่มน้ำไม่เพียงพอ
• นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและแร่ธาตุที่จำเป็น
• การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว
• ความเครียดสูง ส่งผลต่อการสร้างน้ำมันและความชุ่มชื้นของผิวได้
• สภาพอากาศ เช่น ฤดูหนาว อากาศแห้งและแดดจัด ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย

การดูแลผิวแห้งและผิวขาดน้ำ

1. ดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างวัน นอกจากช่วยเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยังช่วยขับสารพิษออกจากผิวด้วย
2. ทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑืทำความสะอาดผิวที่มึสูตรอ่อนโยน ไม่ขัดหรือทำความสะอาดผิวแรงเกินไป และหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย เพราะคนผิวแห้งและผิวขาดน้ำมักระคายเคืองได้ง่าย
3. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว แม้คนที่หน้ามันก็ต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์นะคะ ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์ มีหลายประเภท สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับผิวของเราได้ หรือสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่: เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์(Moisturizer) อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว
4. ทาครีมหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำ ขณะที่รูขุมขนยังเปิดกว้าง จะช่วยให้ผิวดูดซึมสารบำรุงได้ง่ายขึ้น
5. มาส์กผิวที่มีสารบำรุงผิวชนิดเข้มข้น เป็นประจำทุกสัปดาห์ จะช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
6. พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้น ฟื้นฟูเซลล์ผิว และสร้างสารชุ่มชื้นใหม่ให้แก่ผิว

สรุป ทั้งปัญหาผิวแห้ง และผิวขาดน้ำ มีสิ่งที่เหมือนกันคือ ผิวขาดความชุ่มชื้น มีน้ำในผิวไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดูแลและคืนความชุ่มชื้นให้ผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ หรือ สารให้ความชุ่มชื้น ในการบำรุงและเติมน้ำให้แก่ผิวอยู่เสมอ แต่ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของเรา เพื่อตอบปัญหาผิวได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาอื่นๆที่จะตามมาได้

ขอแนะนำ

CKP 47 P.C. ENHANCE MOISTURE CERAMIDE HYA EMULSION

มีคุณสมบัติ
-    ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นบนชั้นผิว เพื่อผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู
-    เติมน้ำสู่ผิว ให้ผิวรู้สึกผิวเต็ม เด้งกระชับขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
-    ฟื้นบำรุง ปลอบประโลมผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวหยาบกร้านขาดน้ำ ให้แข็งแรง ปลั่งปลั่งเรียบเนียนขึ้น 

ด้วยส่วนผสมจาก 
1. PANTHENOL:  Pro-Vitamin B5 มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำให้กับผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานขึ้น อีกทั้งช่วยปรับสภาพผิวที่เสียหายจากแสงแดด และมลภาวะต่างๆ                        
2. CERAMIDE NP: ไขมันธรรมชาติที่มีอยู่ในผิว และเป็นส่วนประกอบสำคัญในผิว ช่วยปกป้องผิวไม่ให้แห้ง ป้องกันการสูญเสียนํ้าและฟื้นฟูผิว 
3. SODIUM HYALURONATE: ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิวตามธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นถึงผิวชั้นใน 
4. Phyto sphingosine: ส่วนประกอบของผิวชั้นบน สารตั้งต้นของเซราไมด์ ช่วยเพิ่มการทำงานของเกราะป้องกันผิว ช่วยรักษาสมดุลน้ำให้อยู่ใน ช่วยลดอาการระคายเคือง

ปัญหา ผิวแห้งขาดน้ำ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเนื่องจากปัญหาผิวหน้าที่แก้ไขได้ด้วยการเลือก สกินแคร์ ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) อย่างเหามะสม การมีผิวสุขภาพดี ปลั่งเปล่ง นุ่มนวลด้วยมอมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) จึงเป็น 1 .ในไอเท็มที่จำเป็นใน  skincare routine ที่ขาดไม่ได้ค่ะ สนใจผลิตสร้างแบรนด์มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer)  แนะนำ ส่วนผสม  Active Ingredients กลุ่มนี้ในสูตรนะคะ 

แนะนำสารสำคัญ Active Ingredients ที่ควรมีในผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer)  

อ้างอิง: https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1106493