เป็นเจ้าของแบรนด์ตัวเอง, AIDA

โมเดล 1000 ล้าน: AIDA Model โมเดลการตลาดที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้

4 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ ปิดการขายได้ง่ายขึ้นด้วย ’AIDA Model’ โมเดลทำการตลาดที่เจ้าของแบรนด์ตัวเองต้องรู้ มาทำความรู้จักกับ AIDA Model พร้อมกรณีศึกษาจากบริษัทโดนัทชื่อดังในบทความนี้กันค่ะ

          ในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดสูง การเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ โมเดล AIDA เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดใช้มานานกว่าศตวรรษ เพื่ออธิบายถึง 4 ขั้นตอนของกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเป็นโมเดลที่เจ้าของแบรนด์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งการทำคอนเทนต์ การยิงแอดโฆษณา และอื่นๆได้อีกมากมาย เพื่อดึงดูดความสนใจและปิดการขายได้ง่ายดายขึ้น

AIDA คืออะไร?

          AIDA หรือไอด้า โมเดล เป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากๆ แบรนด์หรือธุรกิจที่ทำได้ครบและดีเริ่ดทุกสเตปตามหลักการ เผลอๆอาจจะสร้างยอดขายจากเคมเปญนั้นกลับมาเป็นหลัก 1000 ล้านโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงนำเสนอ Case study โมเดลนี้ให้ลองอ่านกันค่ะ (นำมาจากวิดีโอชื่อ Dunkin' Donuts Flavor Radio (2012 Cannes Lions ลองเสิร์ชดูนะคะ) เผื่อผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ท่านใดจะได้ไอเดียใหม่ๆไปลองปรับใช้กับธุรกิจกันดู
          เหตุเกิดจากว่าบริษัทโดนัสชื่อดังเจ้าหนึ่งของโลกต้องการขยับตัวเองมาขายกาแฟ แต่ขายมาซักพัก คนก็ยังมองว่าแบรนด์แกร่งแค่โดนัส ไม่ได้เด่นเรื่องกาแฟซักที ฝ่ายมาร์เก็ตติ้งจึงจับโมเดล AIDA มาใช้

aida model

ซึ่งกลยุทธ์ AIDA Model ประกอบไปด้วย

A - Attention: ดึงดูดความสนใจ
I - Interest: กระตุ้นความสนใจ
D - Desire: กระตุ้นความต้องการ
A - Action: กระตุ้นการตัดสินใจ


A - Attention การดึงดูดความสนใจ

A ที่มาจาก Attention คือการดึงดูดความสนใจ เป็นขั้นตอนแรกที่เจ้าของแบรนด์ ที่อยากเริ่มต้นสร้างแบรนด์ตัวเองให้น่าจดจำ ควรพิจารณาในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้สนใจ และกระตุ้นให้พวกเขาอยากรู้จักแบรนด์ และสินค้าหรือบริการของเรา ตามปกติการดึงดูดความสนใจนี้จะใช้หลักการประสาทสัมผัสทั้ง 5 (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) บริษัทโดนัสเจ้านี้เลือกใช้เสียงและกลิ่นร่วมกัน โดยเค้าได้ไปติดตั้งกลิ่นกาแฟ ที่จะปล่อยออกมาทุกครั้งที่มีเสียงดนตรีร้านโดนัส (เป็นเทคนิคการติดตั้งแบบพิเศษของเค้า)โดยสถานที่ติดตั้งคือภายในรถเมล์ยามเช้า เพราะเค้ามีการสำรวจมาแล้วว่าเช้าๆเนี่ย คนมักไม่ค่อยตื่นตัว (นึกภาพเรางัวเงียในรถเมล์ที่แออัดยามเช้าออกใช่มั้ยคะ) พอคนง่วงๆ ได้ยินเสียงดนตรีจากวิทยุผสานกับกลิ่นกาแฟ ก็ ปัง!! เรียก Attention ได้แล้ววว

ซึ่งความสำคัญในขั้นตอนนี้ คือการที่นักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนอยู่เสมอ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด อย่างเช่น หากทำธุรกิจอาหารเสริม ทำแบรนด์อาหารเสริมลดความเครียด ซึ่งเป็นปัญหาที่กลุ่มวัยทำงานมักเจอ คอนเทนต์ที่ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจ เจ้าของแบรนด์อาหารเสริมการนำเสนอเกี่ยวกับปัญหาที่คนทำงานมักเผชิญบ่อยๆ  เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายตระหนัก ในสิ่งที่เป็นปัญหาของเขา เป็นต้น


I - Interest รู้สึกสนใจ

I หรือ Interest คือขั้นกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกสนใจมากขึ้น โดยใน Case Study ร้านโดนัทคือ คนในรถจากที่ง่วงๆก็จะตื่นมาสอดส่ายที่มาของกลิ่นซึ่งให้ความรู้สึกว่าเห้ย หอมเหมือนกาแฟเลย ในระหว่างนั้นฝ่ายการตลาดก็ย้ำ I ลงไปด้วยการติดป้ายกาแฟของแบรนด์ไว้ระหว่างทางที่รถเมล์ผ่าน เป็นการดึงดูดคนในรถเมล์ทางสายตาว่านี่แหละกาแฟของแบรนด์โดนัสเจ้านี้ เริ่มเห็นการดึงดูด ล่อตาล่อใจ ให้ลูกค้าหันมาพิจารณาในการซื้อกาแฟจากร้านโดนัทเจ้านี้กันแล้วใช่มั้ยคะ (ให้อารมณ์ป้ายเซลล์สีแดงเถือกที่ล่อให้เราต้องเข้าไปนั่นแหละ)

โดยขั้นตอนนี้นักการตลาดหรือเจ้าของแบรนด์จะต้องทำให้ลูกค้าอยากรู้จักมากขึ้น สนใจสินค้ามากขึ้น อาจนำเสนอคอนเทนต์สินค้าที่ดึงดูด ว่าทำไมลูกค้าต้องซื้อ สินค้าของเราจะช่วยแก้ปัญหาของเขาได้อย่างไร แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า คุณสมบัติ ประโยชน์ หรือจุดเด่นของแบรนด์ เป็นต้น


D - Desire ความปรารถนา 

หลังจากรับรู้เสียง กลิ่น และเห็นกาแฟทางสายตาแล้ว ทีนี้คนในรถเริ่มอยู่ไม่นิ่งกันล่ะค่ะ ต่างคนต่างคิดว่าไม่ได้การละ เดี๋ยวลงจากรถก่อนเข้าทำงานต้องจัดให้ชื่นใจซักแก้ว ซึ่งในช่วงที่คนเริ่มเกิดความปรารถนานี้ ฝ่ายการตลาดของแบรนด์ก็ไม่ได้จบแค่ป้ายโฆษณาอันเดียวนะคะ ย้ำป้ายตลอดทาง ผสานกับดนตรีและกลิ่นกาแฟมาเป็นระยะ เอาให้ลงแดงกันไปเลย

เมื่อลูกค้ารู้จัก(Attention) และสนใจ(Interest) เราแล้ว ขั้นต่อไป เจ้าของแบรนด์ต้องกระตุ้นความต้องการซื้อของลูกค้าออกมาให้ได้มากที่สุด อย่าง คอนเทนต์รีวิวสินค้าจากผู้ใช้งานจริง หรือทำคอนเทนต์ที่ให้ลูกค้ารู้สึกว่า สินค้าเราแก้ปัญหาเขาได้จริงๆ ผลลัพธ์หลังการใช้ เป็นต้น


A - Action เกิดการลงมือทำ

จากนั้นที่ทำมาทั้งหมดคือเพื่อให้ขายของได้ สิ่งที่แบรนด์ทำคือ ณ จุดจอดป้ายรถเมล์ จะมีร้านโดนัสของแบรนด์ซึ่งมีรูป กลิ่น เสียงกาแฟล่อลวงมาตลอดทางขายอยู่นั่นเอง คนบนรถต่างก็เฮโลกันไปซื้อกาแฟมาลิ้มลอง จบโปรเจคนี้ก็ไม่อะไรมากแค่ยอดขายที่พุ่งขึ้นมาแบบอลังการงานสร้าง พร้อมกับที่ผู้บริโภคจดจำได้แล้วว่าแบรนด์โดนัสเจ้านี้ขายกาแฟที่รสชาดดีด้วย ก็จัดว่าเป็นการประสบความสำเร็จที่งดงามเลยล่ะค่ะ

ตัว A ตัวสุดท้ายของโมเดลจึงมาจาก Action คือการที่ลูกค้าเกิดการลงมือทำอะไรบางอย่าง เช่น กรอกแบบฟอร์ม จองสินค้า เพิ่มสินค้าลงตะกร้าสินค้า และกดสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น เพื่อทำให้เกิดการปิดการขายได้ในที่สุด สิ่งที่นักการตลาดหรือเจ้าของแบรนด์ควรทำก็คือ ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกในการทำ Action ให้ได้มากที่สุด อย่าง การทำ call to action เช่น ‘เหลือ 2 ชิ้นสุดท้าย’ หรือ ‘สั่งเลย’ เป็นต้น เพื่อให้เกิดการซื้อได้สะดวกและรวดเร็ว   นำเสนอโปรโมชั่น/ข้อเสนอพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกพลาดไม่ได้ ต้องตัดสินใจซื้อทันที เป็นต้น



            ที่ยกตัวอย่างแบรนด์โดนัสมานี้ก็เป็นกรณีศึกษาหนึ่งซึ่งคุณสามารถนำไปใช้กับธุรกิจความงามได้ PS จะยกตัวเองเคสเรื่องผลิตภัณฑ์ความงามเอาง่ายๆเช่นผลิตภัณฑ์แต้มสิว A ใช้การดึงดูดความสนใจด้วยการให้คนรีวิวแบบตูมๆ คือหันไปทางเวปไหนก็เจอว่ามีแต่คนบอกว่าเจลตัวนี้แต้มแล้วสิวยุบแบบเห็นผลจริง ทำให้คนรู้สึกสนใจอีกนิดโดยการบอกว่าเดือนนี้ลดราคาช่วงเปิดตัวจาก 350 เหลือ 199 ทีนี้เชื่อว่าในใจผู้บริโภคจะเกิดความรู้สึกว่าชั้นต้องเป็นเจ้าของให้ได้ แล้วก็เกิดการกระทำคือไปซื้อมาทดลองใช้นั่นเอง จะเห็นว่าหากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง โมเดลนี้ก็จะไม่สมบูรณ์แบบและอาจไม่ประสบความสำเร็จได้ เช่น อยู่ดีๆของหมดสต็อค ขาดทุกร้านทำให้ Action ไม่สำเร็จ ที่ทำมาทั้ง 3 สเตป(AID) ก็ล้มเหลวได้เพราะความรู้สึกของคนเริ่มหายไปเรื่อยๆ หรือเจอแบรนด์อื่นที่มาดึงดูดมากกว่า

            ดังนั้นกฎเหล็กของโมเดลนี้คือทำแล้วต้องทำให้ครบทั้งสี่อย่าง จบให้สมบูรณ์แบบแล้วเงินล้านก็จะตามมาค่ะ สนใจเป็นเจ้าของแบรนด์ความงามของตัวเอง ปรึกษาเรื่องการผลิตครีม การผลิตเครื่องสำอาง และผลิตอาหารเสริมได้ที่ พรีมา แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เราเป็นโรงงานรับผลิตครีม รับผลิตเครื่องสำอางและรับผลิตอาหารเสริม รวมถึงบริการสร้างแบรนด์ครีม สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง และสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่มีคุณภาพและชำนาญการ มีทีมงานและผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ในทุกความต้องการที่คุณคาดหวังค่ะ

ช่องทางการติดต่อ


โปรโมชั่นแนะนำ

อัพเดตเทรนด์ความงาม 2024 ทำธุรกิจความงามไม่ควรพลาด!!

อัพเดตเทรนด์ความงามปี 2024 จากข้อมูลของ Mintel บริษัทวิจัยการตลาดชื่อดัง เพื่อนำไปปรับใช้ พัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้ก่อนใครในบทความนี้เลย...

คัดมาแล้ว 5 เซรั่มตัวท็อปที่นิยมสร้างแบรนด์เซรั่ม

คัดมาแล้ว! 5 เซรั่มที่ทำให้คุณกลายเป็นตัวจริงของแบรนด์เซรั่มที่นิยม ลองใช้แล้วรู้สึกต่าง ติดตามได้ที่นี่!...

เจาะ 9 ธุรกิจน่าสนใจลงทุนปี 2567 จากคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผย 9 ประเภทธุรกิจที่มาแรงโดดเด่นข้ามปี คาดทำผลกำไรต่อเนื่อง ให้นักธุรกิจไทยและต่างชาติใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน...

อัพเดต! 5 เทรนด์อาหารเสริมมาแรง น่าลงทุน 2024/2567

ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไม่เพียงแค่ร่างกายแข็งแรง แต่ยังต้องการสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม จิตใจปลอดโปร่ง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทิศทางของอาหารเสริมปีนี้จึงก้าวข้ามกรอบเดิมๆ ไปสู่แนวโน้มให...


ผลิตภัณฑ์แนะนำ

CUV 66 พี.ซี. ฟิสิคัล ซันสกรีน บรอดสเปรกตรัม เอสพีเอฟ 50+ พีเอ+++

ครีมกันแดดปราศจากสารกันแดดกลุ่มเคมี(Non-Chemical Sunscreen) สูตร paraben free ปราศจากน้ำหอม

B-FMP 15 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วาย.โอ.เอ็น.

มิกซ์เบอร์รี ผงบุกสกัด สารสกัดจากแอปเปิ้ล ผงไซเลี่ยมฮัสก์ สารสกัดจากอะเซอโรลา เชอร์รี อินูลิน

CSL 38 พี.ซี. เจจู ฟลอเลส สกิน เซรั่ม

เจจู ซากุระ เซรั่ม ด้วยสารสกัดจากประเทศเกาหลี - บริษัทพรีมา แคร์ โรงงานรับผลิตครีม เจล เซรั่ม เครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม...

ช่องทางติดต่อสร้างแบรนด์ทำแบรนด์กับ PREMA CARE ผ่านสื่อ Social Media

ติดตาม Fanpage Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดตาม Fanpage Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดตาม Fanpage Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดตาม TikTok Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

เข้ามาติดต่อ Premacare ได้ที่นี่

Follow us!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดการสร้างทำแบรนด์กับเรา

สถานที่ตั้ง

ส่วนโรงงาน

55/5 ม.7 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110

ส่วนสำนักงาน (ออฟฟิศ) รับรองลูกค้า

111/888 ม.5 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

อีเมล

info@premacare.co.th

โทร

0808-108-109, 02-886-3957